• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

ลูกกลัวหมอฟันเด็กควรจะทำยังไงดี?

Started by PostDD, April 03, 2022, 09:52:33 PM

Previous topic - Next topic

PostDD

ลูกกลัวหมอฟันเด็กควรจะทำอย่างไรดี?



ทำไงดี เมื่อลูกน้อยกลัวคุณหมอฟันเด็ก - เด็กกับความกลัวถือเป็นเรื่องที่คู่กัน เด็กจะกลัวในเรื่องที่จำฝังใจ ตัวอย่างเช่น การกลัวการเจ็บปวด กลัวคนแปลกหน้า ความหวาดกลัวสถานการณ์ใหม่ๆที่ยังไม่เคยเผชิญมาก่อน ซึ่งความกลัวจะเกิดขึ้นในตอนหนึ่งของชีวิตเท่านั้น โดย ความหวาดกลัวนั้นจะขึ้นกับตัวเด็กอีกทีว่าเด็กนั้นที่ผ่านมาพ่อแม่อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีปัจจัยที่นำมาซึ่งการทำให้เด็กกลัว ทันตแพทย์เด็กหรือกลัวการดูแลรักษาทางด้านทันตกรรมเด็ก เช่น ประสบการณ์การดูแลรักษาทางทันตกรรมเด็ก ในอดีต โดยเฉพาะการพาเด็กเข้าการรักษาฟันในระหว่างที่เด็กเจ็บอยู่ฟัน แล้วก็อาจก่อให้เด็กทั้งยังเจ็บแล้วกลัวรวมทั้งฝังลึกในใจเลยนำมาซึ่งความกลัว รวมทั้งอาจก่อให้เด็กกลัวหมอที่สวมชุดสีขาว หรือกลัวการเข้าไปรักษาในโรงหมอหรือสถานพยาบาลทันตกรรมต่างๆและก็การฟังจากคำบอกเล่าจากเครือญาติ ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง รวมทั้งเด็กบางทีก็อาจจะรับรู้ได้จากการกระทำบางสิ่งบางอย่าง หรือจากสีหน้าท่าทางที่มีความรู้สึกไม่สบายใจที่พ่อแม่แสดงออกมาโดยไม่ได้คาดคิด ฯลฯ

การเตรียมการลูก สำหรับเพื่อการมาเจอคุณหมอฟันคราวแรก

ทันตกรรมเด็กกับการเตรียมพร้อมเด็กที่ดีนั้นมีผลเป็นอย่างมากต่อพฤติกรรมของเด็กและการบรรลุผลในการรักษา เพราะฉะนั้นคุณพ่อกับคุณแม่จำเป็นที่จะต้องหลบหลีกคำกล่าวที่น่ากลัวหรือแสดงความกลุ้มอกกลุ้มใจเกี่ยวกับหมอฟันเด็กที่ให้บริการทัตนกรรมเด็ก และไม่ควรใช้หมอฟันหรือกระบวนการทำฟันเป็นสิ่งที่ใช้ในการข่มขู่ลูก ดังเช่น "หากไม่ยอมแปรงฟันนะ จะจับไปให้แพทย์ถอนฟันเลย" ซึ่งจะยิ่งทำให้ลูกฝั่งใจและกลัวหมอฟันมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้พ่อกับแม่บางทีอาจช่วยสนับสนุนทัศนคติในทางบวกต่อวิธีการทำฟันให้แก่ลูก ได้แก่ "แพทย์จะช่วยให้หนูมีฟันงามแล้วก็แข็งแรง" นอกเหนือจากนี้เมื่อพบว่าลูกมีฟันผุก็ควรจะพาลูกมาทำฟันตั้งแต่ในขณะที่ยังไม่มีลักษณะของการปวด ถ้าเกิดคอยให้มีลักษณะปวดก่อนเด็กจะยิ่งมีความกลุ้มใจสำหรับในการทำฟันมากยิ่งขึ้น

เมื่อมาหาหมอฟันแล้ว ถ้าลูกกลัวหมอฟัน ไม่ร่วมมือผู้ดูแลรวมทั้งทันตแพทย์ ควรทำอย่างไร

เด็กแต่ละคนที่มีความกลัวก็จะแสดงพฤติกรรมที่แตกต่างออกไป เด็กที่มีความหวาดกลัวและไม่ให้ความร่วมมือ จำเป็นอย่างยิ่งที่ทันตแพทย์จำเป็นต้องพินิจพิจารณาหาสาเหตุของความกลัวของเด็ก เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบในการใคร่ครวญเลือกใช้กระบวนการจัดแจงการกระทำ ซึ่งบิดามารดาจะมีส่วนช่วยเป็นอย่างมากสำหรับการให้ข้อมูลเบื้องต้นกลุ่มนี้ หลังจากนี้ก็จะเป็นหน้าที่ของ ทันตแพทย์ที่จะเลือกใช้วิธีปรับพฤติกรรมต่างๆเพื่อเด็กให้ลดความหวาดกลัว ความกังวล และก็ยอมความร่วมแรงร่วมมือในการทำฟันเด็ก โดยแนวทางที่ใช้สูงที่สุดก็คือ การปรับพฤติกรรมโดยวิธีทางจิตวิทยาไม่ว่าจะเป็นการเสวนา ปลอบประโลม ยกย่อง ช่วยเหลือให้กำลังใจ การเบี่ยงเบน ความพึงพอใจ หรือการแยกผู้ดูแล ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอายุของเด็ก ระดับของความร่วมมือ และก็ปริมาณงานหรือ ความเร่งรีบของการดูแลรักษาด้วย ได้แก่ ในเด็กเล็กต่ำยิ่งกว่า 3 ขวบ ที่ยังพูดคุยติดต่อกันไม่รู้เรื่อง หรือเด็กที่ไม่ให้ ความร่วมแรงร่วมมือเป็นอย่างมาก หมอฟันก็อาจจะจำเป็นต้องขออนุญาตใช้ผ้าห่อตัวเด็ก (Papoose board) ช่วยควบคุมการเคลื่อนไหวของเด็กเพื่อให้สามารถให้การรักษาได้ทางด้านทันตกรรมเด็กอย่างปลอดภัยรวมทั้งมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หรืออาจจะพรีเซ็นท์ลู่ทางการดูแลรักษาทางทันตกรรมภายใต้การทานยาให้สงบหรือการดมกลิ่นยาสลบให้แก่ผู้ดูแลเป็นคนตัดสินใจ

สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่จะทำให้ลูกน้อยไม่กลัวทันตแพทย์เด็ก

สิ่งที่ดีเยี่ยมที่สุดของการมาใช้บริการทันตกรรมเด็ก ที่จะทำให้ลูกของคุณไม่กลัวทันตแพทย์คือ การดูแลช่องปากของลูกไม่ให้มีฟันผุ โดยควรจะพาลูกมาเจอทันตแพทย์ตั้งแต่ฟันซี่แรกขึ้นหรือด้านในขวบปีแรก แล้วก็ตรวจฟันอย่างสม่ำเสมอทุกๆ 6 เดือน เมื่อลูกไม่มีฟันผุ เวลาทำฟันเด็กก็ไม่เจ็บ เมื่อไม่เจ็บก็ชอบไม่กลัวทันตแพทย์ แม้กระนั้นเมื่อลูกมีฟันผุแล้วพ่อกับแม่ก็ควรอดทนที่จะพาลูกมารับการรักษาตามนัดหมายอย่างสม่ำเสมอ ถึงแม้ว่าลูกจะร้องไห้ตั้งแต่อยู่ที่บ้านเมื่อรู้ว่าจะพามาทำฟันก็ตาม เพื่อลูกของคุณมีสุขภาพโพรงปากที่ดี ซึ่งเมื่อมีสุขภาพช่องปากที่ดีแล้วก็จะช่วยสนับสนุนให้เด็กมีความเจริญในด้านอื่นๆที่ดีตามไปด้วย