• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

หากการดำเนินการในต่างประเทศไม่ถูกต้องคำพิพากษาไม่มีผลในประเทศไทย หรือไม่

Started by Prichas, June 16, 2022, 08:39:21 AM

Previous topic - Next topic

Prichas

โจทก์เป็นคนสัญชาติอเมริกัน จำเลยเป็นคนสัญชาติไทย จดทะเบียนสมรสกันที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ฟ้องฟ้องขอหย่า.กับจำเลยต่อศาลชั้นต้น ขณะคดีอยู่ในระหว่างพิจารณา ผู้ฟ้องฟ้องหย่า.ผู้ถูกฟ้องต่อศาลสูงสุดแห่งมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา และศาลสูงสุดแห่งมลรัฐแคลิฟอร์เนียมีคำพิพากษาให้ผู้ฟ้องและผู้ถูกฟ้องหย่าขาดจากกัน โดยในคดีนี้โจทก์นำสืบเพียงว่า เมื่อผู้ฟ้องคดียื่นฟ้องหย่าร้างจำเลยต่อศาลสูงสุดแห่งมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ทนายผู้ฟ้องคดีได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อติดตามผู้ถูกฟ้องคดีมาต่อสู้คดี โดยส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้ผู้ถูกฟ้องด้วยวิธีประกาศหนังสือพิมพ์ ซึ่งตามกฎหมายของประเทศสหรัฐอเมริกาบัญญัติให้คู่สามีภริยาหย่า.กันได้ 2 กรณีคือ 1. กรณีหย่า.ไม่มีผู้คัดค้าน หมายถึง คู่สมรสยินยอมที่จะหย่ากัน 2. กรณีหย่าร้างโดยมีผู้คัดค้าน ส่วนคำพิพากษาศาลสูงสุดแห่งมลรัฐแคลิฟอร์เนียก็ไม่ได้ระบุถึงเหตุแห่งการหย่าร้างไว้ว่าเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายมาตราใด หรือเพราะเหตุใดระบุแต่เพียงว่าผู้ถูกฟ้องคดีขาดนัดแล้วพิพากษาให้โจทก์หย่า.ขาดจากผู้ถูกฟ้องคดีเท่านั้น กรณีจึงเป็นเรื่องที่ผู้ฟ้องคดีซึ่งเป็นฝ่ายกล่าวอ้างมิได้พิสูจน์กฎหมายนั้นให้เป็นที่พอใจแก่ศาลว่ากฎหมายบัญญัติเหตุหย่าไว้ว่าอย่างไร นอกจากนี้พฤติการณ์ของผู้ฟ้องที่ได้ยื่นฟ้องหย่า.ผู้ถูกฟ้องคดีเป็นคดีนี้ต่อศาลชั้นต้นก่อน แต่ยังไม่ทันที่ศาลชั้นต้นจะพิพากษาคดี ผู้ฟ้องคดีกลับไปแต่งงานกับหญิงอื่นแล้วอาศัยคำพิพากษาของศาลสูงสุดแห่งมลรัฐแคลิฟอร์เนียมาบังคับผู้ถูกฟ้องคดี จึงเป็นการใช้สิทธินำคดีไปฟ้องยังศาลต่างประเทศโดยไม่สุจริตและยังขัดกับหลักเกณฑ์การยอมรับและบังคับคำพิพากษาของศาลต่างประเทศด้วย กล่าวคือผู้ฟ้องคดีฟ้องคดีต่อศาลชั้นต้น ผู้ฟ้องย่อมทราบดีว่าจำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ที่ใด แต่ผู้ฟ้องคดีกลับส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้ผู้ถูกฟ้องด้วยวิธีประกาศหนังสือพิมพ์ เป็นเหตุให้ศาลสูงสุดแห่งมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา มีคำพิพากษาให้ผู้ฟ้องคดีชนะคดีโดยขาดนัด การดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมของผู้ฟ้องจึงไม่ได้เป็นไปโดยเที่ยงธรรมและผู้ฟ้องไม่ได้พิสูจน์ให้ศาลเห็นว่าเหตุแห่งการฟ้องหย่า.ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของกฎหมายภายในของประเทศสยาม ศาลจึงต้องใช้กฎหมายภายในแห่งประเทศสยามมาใช้บังคับแก่คดี ศาลล่างทั้งสองจึงมีอำนาจวินิจฉัยว่ามีเหตุหย่าร้างตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1516 หรือไม่ เมื่อศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงว่าผู้ถูกฟ้องคดีมิได้จงใจทิ้งร้างโจทก์เกินกว่าหนึ่งปี และฎีกาของผู้ฟ้องไม่ได้โต้แย้งคำวินิจฉัยของศาลล่างดังกล่าว ข้อเท็จจริงฟังได้ตามที่ศาลล่างวินิจฉัยมา โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องหย่า.ผู้ถูกฟ้องตาม ป.พ.พ. มาตรา 1516 (4) คำพิพากษาศาลล่างชอบแล้ว เมื่อโจทก์และจำเลยยังมิได้หย่าร้างขาดจากกัน จึงไม่จำต้องวินิจฉัยว่าที่ดินพิพาทเป็นสินสมรสหรือไม่ เป็นเช่นไร เพราะการแบ่งสินสมรสจะกระทำได้ต่อเมื่อมีการหย่า.แล้วเท่านั้น ทั้งนี้เป็นไปตาม ป.พ.พ. มาตรา 1532 และ 1533 ส่วนที่จำเลยฟ้องแย้งเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูจากผู้ฟ้องคดีซึ่งต้องบังคับตามกฎหมายสัญชาติของผู้ฟ้อง แต่ผู้ฟ้องมิได้พิสูจน์กฎหมายนั้นจนเป็นที่พอใจแก่ศาล จึงต้องใช้กฎหมายภายในแห่งประเทศสยามบังคับ ที่ศาลล่างพิพากษาให้โจทก์ชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูแก่ผู้ถูกฟ้องโดยใช้ ป.พ.พ. มาตรา 1461 และ 1598/38 จึงชอบแล้ว(คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8455/2559)ทนายเชียงใหม่ทนายความเชียงใหม่