• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสต์ฟรี โปรโมทเว็บไซต์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

อ่านเกม MARK ZUCKERBERG ผู้ก่อตั้ง FACEBOOK ในยุค META ที่ไม่ META อีกต่อไป

Started by Thetaiso, February 07, 2022, 03:53:20 PM

Previous topic - Next topic

Thetaiso

ตั้งแต่ Facebook เปลี่ยนแปลงชื่อเป็น Meta เพื่อรันเทรนด์จักรวาลนิรมิตร หรือ Metaverse ทุกๆอย่างที่ Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง และ CEO ของบริษัทวาดฝันไว้กลับไม่เป็นไปตามที่คิด

เนื่องจากถึงบริษัทจะมีรายได้รวมปี 2021 เติบโต 20% แต่ว่าก็มาพร้อมข่าวไม่ดีอย่างเช่น ยอดผู้ใช้งานต่ำลงเป็นครั้งแรกตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท และก็ธุรกิจส่วน Metaverse ขาดทุนกว่า 3,304 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1 แสนล้านบาท

แถมจากผลประกอบการที่ไม่สู้ดี ทำให้ราคาหุ้น Meta หลังปิดตลาดวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2022 ลดลง 26% ค่าธุรกิจหายไป 2.3 แสนล้านดอลลาร์ หรือราว 8 ล้านล้านบาท

ในภาษาเกม Meta ไม่ได้หมายคือ Metaverse แต่ว่าคือ Most Effective Tactics Available หรือยุทธวิธีที่ดีเยี่ยมที่สุดสำหรับในการเอาชนะเกมนั้น ซึ่งบางทีอาจพูดได้ว่า Facebook ปัจจุบันนี้ไม่ใช่ Meta ของเกม Social Media อีกแล้ว



เพราะเหตุไร Meta ไม่ Meta อีกต่อไป?
เริ่มกันที่ตัวเลขการใช้แรงงาน Facebook กันก่อน ด้วยเหตุว่าจำนวนผู้ใช้งานเป็นประจำแต่ละวัน หรือ Daily Average Users (DAUs) ในไตรมาส 4 ปี 2021 อยู่ที่ 1,929 ล้านบัญชี ต่ำลงจาก 1,930 ล้านบัญชี ในไตรมาส 3 ปีเดียวกัน ถือว่าเป็นการลดน้อยลงของปริมาณผู้ใช้ทีแรกนับจาก Facebook ให้บริการมานาน 17 ปี

เหตุผลที่ต่ำลงคงเดากันไม่ยาก เพราะเหตุว่ามีตั้งแต่ Facebook เป็นที่นิยมในกรุ๊ปคนแก่ รวมทั้งคนแก่ ส่วนคนรุ่นใหม่กลับไม่เลือกใช้งาน, ข่าวร้ายเกี่ยวกับการสนใจเรื่องกำไรมากกว่าความปลอดภัยของข้อมูลของผู้ใช้ และการปล่อยให้เกิด Hate Speech อย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นการใช้งานในระบบ

ปัจจัยพวกนี้ทำให้ Facebook รักษาอัตรา DAUs ได้ยาก แล้วก็ค่อยๆสูญเสียความเป็น Meta ในตลาด Social Media ให้กับคู่ต่อสู้รายอื่น ถึงแม้ Instagram จะยังตอบปัญหาการใช้งานของกลุ่มวัยรุ่นได้ และก็ Whatsapp ยังมีการใช้งานอย่างสม่ำเสมอ แม้กระนั้นก็เทียบไม่ได้กับจำนวนผู้ใช้ Facebook ที่แค่ต่ำลง 1 ล้านบัญชี ก็กระทบราคากิจการโดยทันที

แล้ว Meta จะเดินหน้า Metaverse ได้ใช่หรือไม่?
นับตั้งแต่แปลงชื่อจาก Facebook เป็น Meta เมื่อสิ้นเดือน ตุลาคม 2021 ความขมักเขม้น Metaverse ก็มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมที่ Facebook เบาๆขมักเขม้นกับการรุกตลาด AR และ VR ตัวอย่างเช่นการซื้อกิจการค้า Oculus (เดี๋ยวนี้เปลี่ยนชื่อเป็น Meta Quest) เมื่อปี 2014 และพัฒนากระทั่งเปลี่ยนเป็นหนึ่งในแว่น VR ลำดับหนึ่งของโลก

แต่ว่าการลงทุนใน Metaverse ถือเป็นเรื่องใหม่ แล้วก็ตลาดอาจยังไม่พร้อมขนาดนั้น เนื่องจากถ้าดูก่อนยได้ Reality Labs หรือธุรกิจใหม่ของ Meta ที่มีกรุ๊ป Metaverse เป็นหนึ่งในนั้น ในไตรมาส 4 2021 กลับทำได้เพียงแค่ 877 ล้านดอลลาร์ แต่ขาดทุนถึง 3,304 ล้านดอลลาร์ และก็ขาดทุนทั้งปี 2021 กว่า 9,000 ล้านดอลลาร์

ถ้าเกิดไปเทียบกับรายได้ฝั่ง Family of Apps หรือธุรกิจดั้งเดิม เป็นต้นว่า รายได้โปรโมท Facebook แล้วก็ Instagram ในไตรมาส 4 ทำได้ 32,794 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรถึง 15,889 ดอลลาร์ ส่วนตลอดปีมีผลกำไรถึง 56,000 ล้านดอลลาร์ เรียกว่าการขับ Metaverse อาจยังเกิดเรื่องเพ้อฝันอยู่ถ้าหากดูในเรื่องเม็ดเงิน

พัก Anti-Meta ด้วยการกลับมาเน้นวีดีโอ
จากผลประกอบการที่ไม่สู้ดี ทำให้ราคาหุ้นที่ตกฮวบจนกระทั่ง Meta สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ด้วยการกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าธุรกิจการค้าน้อยลงสูงที่สุดภายในวันเดียว งานนี้ Mark Zuckerberg ถึงกับกล่าวในงานสัมมนาหน่วยงานผ่านออนไลน์ว่า "เราจะกลับมาเน้นย้ำวีดีโอสั้น เพราะเป็นแหล่งรายได้สำคัญต่อจากนี้"

งานนี้ศัพท์ในการเล่นเกมเรียกว่า Meta อาจกลับมาใช้วิธีการ Meta อีกครั้ง เพื่อยืนยันการบรรลุผล รวมทั้งมีผลประกอบกิจการที่ออกมาสวยสดงดงาม พร้อมด้วยพักการ Anti-Meta หรือเปล่าทำตามอย่างยุทธวิธีที่บุคคลอื่นทำด้วยการเร่งเครื่องธุรกิจใหม่ แล้วก็กรุ๊ป Metaverse เพื่อสร้างรายได้ในอนาคต

นอกนั้นยังส่งแผนต่างๆเพื่อรั้งบุคลากรเยอะแยะให้อยู่ร่วมกับบริษัทให้นานที่สุด ไม่ไหลออกไปร่วมงานกับคู่แข่ง ได้แก่ การเพิ่มวันหยุดสำหรับในการดำเนินการ และก็กระตุ้นให้พนักงานใช้วันลาพักร้อนเพื่อผ่อนคลาย และไม่เกิดอาการ Burnout จนไม่สามารถที่จะรีดคุณภาพการทำงานออกมาได้สุดกำลัง

งานหนัก Mark เพื่อทำ Meta ให้ติด Meta
อย่างไรก็แล้วแต่ไม่ใช่งานง่ายที่ Mark Zuckerberg จะก่อให้ Meta กลับมาเป็น Meta ของธุรกิจ Social Media. เนื่องจากอีกทั้งต้นสายปลายเหตุข้างต้นเป็นต้นว่า วัยรุ่นมองข้ามการใช้งาน Facebook รวมถึงการสนใจเรื่องรายได้มากจนเกินความจำเป็นจนกระทั่งทำให้ผู้ใช้ต้องการย้ายออกไปอยู่ใน Social Media รายอื่น

ไหนจะเรื่อง Apple ที่ส่งฟีพบร์ Do not Track หรือเปล่าให้แอปพลิเคชันต่างๆรู้ว่าผู้ใช้ติดอกติดใจสิ่งไหน ทุกๆวันใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่อทำอะไรบ้าง กระทั่งกระทบกับการทำตลาดบริการโฆษณาบน Facebook แล้วก็แอปพลิเคชันในเครือ เนื่องจากทำเงินจากบริการประชาสัมพันธ์ได้ทุกข์ยากลำบากขึ้น

แล้วก็ปัจจุบันราคาหุ้นของ Meta ยังไม่รู้สึกตัวกลับมา สะท้อนให้มองเห็นถึงความเชื่อมั่นและมั่นใจในนักลงทุน แล้วก็อาจจะจำต้องลุ้นกันว่า Meta จะกลับมาได้หรือไม่ เนื่องจากว่าถ้าเกิดยังไม่แก้ไข ช่องทางที่รายได้จากฝั่งโปรโมทก็บางทีอาจลดน้อยลง ผ่านปริมาณผู้ใช้งานที่ไหลไปยังแพลตฟอร์มอื่นๆ

สรุป
Meta บางทีอาจไม่ Meta อีกต่อไปแล้ว เนื่องจาก Facebook แปลงเป็นแพลตฟอร์มสำหรับคนแก่ แม้ว่าจะมี Instagram แล้วก็ Whatsapp คอยช่วยเหลือ แม้กระนั้นโน่นก็ไม่พอ โดยเหตุนั้นการจูงใจให้คนสมัยใหม่กลับใช้งานเป็นหัวข้อหลัก และก็การยินยอมกลืนเลือดด้วยการพัก Metaverse และก็กลับมาอยู่ในโลกแห่งความจริงก่อนน่าจะเป็นเรื่องที่เหมาะสมที่สุด