• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

10 สถาปัตยกรรม ที่ยอดเยี่ยมที่น่าไปเยือน

Started by Panitsupa, March 26, 2022, 08:38:36 PM

Previous topic - Next topic

Panitsupa



โลกนี้เต็มไปด้วยผลงานชิ้นยอดเยี่ยมทางสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่งซึ่งสร้างแรงจูงใจให้กับเรา แต่ว่าสำหรับผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อย ตึกที่น่าประทับใจพวกนี้มีอยู่ในจินตนาการแค่นั้น โชคดีที่พวกเราได้รวบรวมรายชื่อ 10 สิ่งปลูกสร้างที่น่าระทึกใจ ประหลาดตา แล้วก็ประดิษฐ์ที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา ไม่ว่าคุณจะถูกใจ สถาปัตยกรรม สมัยใหม่หรือร่วมยุค คุณจะหลงเสน่ห์รายการ 10 สิ่งมหัศจรรย์ทาง สถาปัตยกรรม ที่ยอดเยี่ยมจากทั่วทั้งโลก

ตั้งแต่ตึกระฟ้าไปจนถึงสวนสาธารณะ โลกเป็นสถานที่ที่น่าสนใจ และก็ในระหว่างที่การออกแบบ สถาปัตยกรรม รวมทั้งภูมิทัศน์ดำเนินไป ก็เป็นสถานที่ที่เลิศเช่นกัน นี่เป็นสถานที่ที่ดีที่สุด 10 แห่งที่จะเห็น

1. Sydney Opera House



Sydney Opera House เป็นหนึ่งใน สถาปัตยกรรม ที่ยิ่งใหญ่และก็อาคารที่สวยสดงดงามที่สุดในโลก และตั้งอยู่ในเมืองซิดนีย์ ออสเตรเลีย วางแบบโดยสถาปนิกชาวเดนมาร์ก Jørn Utzon ผู้ชนะการแข่งขันในปี 2500 ให้เป็นโครงสร้างที่นำสมัยและก็มีพลัง ซึ่งจะเป็นตัวแทนของอนาคตรวมทั้งแปลงเป็นเครื่องหมายของเมืองซิดนีย์ โครงการนี้ใช้เวลากว่าแปดปีจึงแล้วเสร็จ และก็เปิดทำงานในปี 2516

Sydney Opera House ถูกใช้เป็นห้องแสดงคอนเสิร์ต โรงแสดงละคร และก็พื้นที่จัดโชว์นิทรรศการ มันถูกผลิตขึ้นโดยเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับช่วยในด้านสำหรับอำนวยความสะดวกทางด้านวัฒนธรรมรวมทั้งการผ่อนคลายจิตใจของ Sydney Harbour Foreshore Authority ในอ่าวซิดนีย์ การออกแบบได้รับแรงดลใจจากสะพานซิดนีย์ฮาร์เบอร์ และคุณลักษณะหลักคือต้นแบบคานที่วางแขนและผิวเหล็กซึ่งหุ้มห่อด้วยทองแดง

ลักษณะทาง สถาปัตยกรรม หลักของ Sydney Opera House เป็นต้นว่า การใช้สิ่งของจากธรรมชาติและก็การแก้ปัญหาด้านเทคโนโลยีที่เป็นสิ่งใหม่ใหม่ หลังคามุงด้วยทองแดงซึ่งสะท้อนแสงอาทิตย์รวมทั้งช่วยให้ตึกเย็นสบาย หลังคายังได้รับการออกแบบเพื่อใช้เป็นเมมเบรนกันเสียง

Sydney Opera House ตั้งอยู่ที่ Bennelong Point ทางด้านตะวันตกของอ่าวซิดนีย์ เปิดให้สามัญชนทั่วไปเข้าชมทุกๆวัน เวลา 11.30 – 19.00 น. แต่ในฤดูร้อนจะเปิดจนถึง 21.00 น.

2. หอไอเฟล



หอไอเฟล เป็นหนึ่งใน สถาปัตยกรรม ที่ยอดเยี่ยมและก็โครงสร้างที่มีชื่อเสียงสูงที่สุดในโลก แม้ว่าคุณจะไม่ได้บอกภาษาประเทศฝรั่งเศสก็ตาม เกียรติศักดิ์มาจากการออกแบบซึ่งประกอบด้วยสององค์ประกอบหลัก: งานเหล็กฝาขัดแตะแล้วก็องค์ประกอบเหล็ก เป็น สถาปัตยกรรม ของหอไอเฟลที่ทำให้นักออกแบบสามารถบรรลุเสถียรภาพทางโครงสร้างที่อยากได้ได้

ต่อจากนี้ หอไอเฟลเป็นหนึ่งในตึกที่เด่นรวมทั้งมีชื่อเสียงเยอะที่สุดในโลก นอกเหนือจากนั้นยังเป็นตึกที่สูงที่สุดในกรุงปารีส เป็นโครงสร้างยืนอิสระที่สูงเป็นชั้นสามของโลก หอคอยนี้วางแบบโดยกุสตาฟ ไอเฟล วิศวกรโยธารวมทั้งสถาปนิกชาวฝรั่งเศส เขาอยากสร้างหอคอยที่สวยและเป็นประโยชน์ใช้สอย

หอไอเฟลตั้งอยู่ที่ Champ de Mars ในเขตที่ 7 สามารถเข้าถึงได้โดยรถไฟใต้ดินสาย 1 แล้วก็เมโทร สำหรับเพื่อการไปถึงหอไอเฟล คุณต้องขึ้นรถไฟ RER (รถไฟด่วนภูมิภาค) ไปยังชาเตเลต์ – เลอาล ซึ่งอยู่ห่างจากหอพักไอเฟลเพียงไม่กี่นาที คุณสามารถเดินทางได้ไม่ยากโดยรถโดยสารประจำทางหรือแท็กซี่ ถ้าหากคุณพอใจ เราขอแนะนำให้ท่านดูหอไอเฟลรวมทั้งทำความรู้จักกับมันให้ดียิ่งขึ้น คุณจะรักมันอย่างไม่ต้องสงสัย


3. กำแพงเมืองจีน



กำแพงเมืองจีนยอดเยี่ยมใน สถาปัตยกรรม ที่ยิ่งใหญ่และโครงงานก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของคนเรา เริ่มขึ้นใน 220 ปีก่อนคริสตกาลและก็ใช้เวลาประมาณสิบห้าปีกว่าจะเสร็จในรัชสมัยของจักรพรรดิ Qin Shi Huang ผู้ซึ่งปรารถนาปกป้องชายแดนของจีนจากอาณาจักรเ.้ยมโหดทางด้านเหนือ นับจากนั้นมาได้แปลงเป็นสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจของชาติจีน การออกแบบเริ่มแรกได้รับแรงผลักดันจากกำแพงยุคเก่าที่สร้างโดยราชวงศ์ฉิน แม้กระนั้นระหว่างการก่อสร้างกำแพง คนของจักรพรรดิ์พบว่าพวกเขาปรารถนากำแพงที่แข็งแรงกว่าที่เคยสร้างมาก่อน พวกเขาค้นพบว่าการใช้หินแล้วก็ก้อนอิฐแทนอิฐโคลน กำแพงจะแข็งแรงพอที่จะยั้งกองกำลังข้าศึกได้

กำแพงเมืองจีนยอดเยี่ยมในแผนการก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยกำแพงหินยาวกว่า 6,000 กิโลเมตร กำแพงเมืองจีนจึงถูกทำขึ้นเพื่อปกป้องรักษาจีนจากพวกมองโกล โครงการนี้เริ่มขึ้นในศตวรรษที่ 13 เมื่อจักรวรรดิมองโกลรุกรานดินแดนของจีน นี่เป็นช่วงเวลาที่ความระส่ำระสายของจีน มันต้องการระบบคุ้มครองเป็นอย่างมาก ภายหลังช่วงเวลา 10 ปี โครงการก็แล้วเสร็จในปี 1271 โครงงานใช้เวลาราว 60 ปีก็เลยจะแล้วเสร็จ

คุณคงคุ้นเคยกับเรื่องราวของการที่คนจีนสร้างกำแพงเมืองจีน แต่ว่าคุณอาจไม่เคยทราบอะไรเกี่ยวกับกรรมวิธีจริงๆมากเท่าไรนัก นี่เป็นแนวความคิดทั่วๆไปเบื้องหลังการออกแบบและก็การก่อสร้าง: คนจีนต้องหาทางแก้ปัญหาของพวกเขากับผู้บุกรุกที่ข้ามเขตแดนจากเอเชียกลาง วิธีที่ง่ายที่สุดสำหรับในการสกัดผู้บุกรุกกลุ่มนี้เป็นการสร้างกำแพงกั้นระหว่างพวกเขากับชาวจีน เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้บุกรุกรุกล้ำเข้ามา เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้บุกรุกข้ามกำแพง ชาวจีนจำต้องสร้างกำแพงให้สูงอย่างน้อย 8 ฟุต พวกเขาควรต้องทำสิ่งนี้โดยการขุดคูน้ำกว้างขั้นต่ำ 30 ฟุต แล้วต่อจากนั้นสร้างกำแพงตามคูน้ำแล้วต่อเติมในคลอง กำแพงน่าจะยาวราวๆ 7,000 ไมล์ หากคุณต้องเดินทางไปทั่วประเทศจีน

4. ทัชมาฮาล



ทัชมาฮาลบางทีอาจเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่โด่งดังที่สุดในโลกรวมทั้งมักถูกอ้างถึงว่าได้ผลงานชิ้นยอดเยี่ยม ตึกนี้เป็นอนุสาวรีย์ของผู้ดูแลโมกุลของจักรวรรดิอินเดีย ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 ในตอนนั้นเป็นหลุมฝังศพที่ใหญ่ที่สุดและมีราคาแพงที่สุดในโลก ปัจจุบันนี้ องค์ประกอบยังคงเป็นอนุสรณ์แห่งความรุ่งโรจน์ของอาณาจักรโมกุล ถึงแม้ว่าป่าช้าจะไม่เคยสร้างเสร็จ

ทัชมาฮาลเป็นตัวอย่างที่ดีที่ชี้ให้เห็นว่าผลงานชิ้นยอดเยี่ยมของ สถาปัตยกรรม สามารถอยู่บนรากฐานของรูปแบบการทำงานได้อย่างไร ที่จริง ตัวตึกได้รับการออกแบบมาอย่างดีจนกระทั่งสามารถทนต่อภัยจากธรรมชาติได้โดยไม่มีความเสียหายร้ายแรง ดีไซน์เนอร์ของทัชมาฮาล จักรพัตราธิราชโมกุล ชาห์ จาฮัน รวมทั้งภรรยา มุมตาซ มาฮาล ยกย่องธรรมชาติและข้อบังคับเป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้ทัชมาฮาลก็เลยมีฐานที่แข็งแรงพร้อมฐานเสาขนาดใหญ่ มีหิน 2 ชั้น และก็หินก่ออิฐแล้วก็เศษหินหรืออิฐ ที่ด้านล่างเพื่อสร้างองค์ประกอบที่มั่นคงจะ

ตัวอาคารประกอบด้วยวัสดุต่างๆที่คัดสรรมาอย่างยอดเยี่ยมเพื่อให้กับสภาพภูมิอากาศในท้องถิ่น อย่างเช่น ทัชมาฮาลใช้หินอ่อนจากเทือกเขาอาบู ซึ่งร้อนรวมทั้งแห้งมาก ในเวลาที่ฐานรากผลิตขึ้นมาจากหินในเขตแดนเพื่อมีความมั่นคงยั่งยืนในสภาพภูมิอากาศที่เปียกแฉะของอัครา ตัวตึกยังใช้หินอ่อนสีขาวเพื่อแสดงถึงความบริสุทธิ์ ในช่วงเวลาที่ปากทางเข้าหลักใช้หินอ่อนสีแดง อาคารยังใช้อิฐสำหรับฝาผนังด้านนอกเพื่อคุ้มครองปกป้องตึกจากฝนและหิมะ ตัวตึกยังล้อมรอบด้วยคูน้ำเพื่อกันไม่ให้น้ำเข้าจากตัวอาคาร เว้นแต่สิ่งของแล้ว ตัวอาคารยังได้รับการออกแบบให้มีฐานที่แข็งแรง ทัชมาฮาลใช้เสาค้ำจนถึงส่วนประกอบ ซึ่งช่วยรักษาเสถียรภาพ ได้ผลให้ทัชมาฮาลสามารถทนต่อภัยจากธรรมชาติดังเช่นแผ่นดินไหวและน้ำท่วม ในความเป็นจริง, ตึกนี้ทำขึ้นในช่วงที่จักรวรรดิโมกุลกำลังขยายตัวในหลายส่วนของโลก ทัชมาฮาลถูกผลิตขึ้นมาเป็นเวลาหลายศตวรรษรวมทั้งเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความเจริญของอาณาจักรโมกุล ทัชมาฮาลไม่ได้เป็นเพียงสถาปัตยกรรม ที่งดงามเท่านั้น แม้กระนั้นยังเป็นอาคารที่ใช้งานได้จริงอีกด้วย มันปฏิบัติหน้าที่เป็นตัวอย่างว่าผลงานชิ้นโบแดงของสถาปัตยกรรม สามารถอยู่บนพื้นฐานของแนวทางการทำงานได้ยังไง


5. โคลอสเซียม



โคลอสเซียมถูกผลิตขึ้นเพื่อเป็นสถานที่สำหรับความสนุกสนานแล้วก็สถานที่สักการะ แต่จุดประสงค์หลักคือเพื่อให้ประชาชนได้มองเห็นความทารุณโหดร้ายของจักรวรรดิโรมันรวมทั้งแนวทางที่มันควบคุมประชากร จักรวรรดิโรมันเป็นที่รู้จักสำหรับวิธีการลงอาญาที่เ.้ยมโหดและก็รุนแรง พวกเขายังบันเทิงใจกับการสู้รบแบบกลาดิเอเตอร์ กลาดิเอเตอร์เป็นผู้ต้องขังที่ต่อสู้กันเองจนตายเพื่อความบันเทิงและกำไร เกมกลาดิเอเตอร์บางเกมมีไว้สำหรับผู้ชมทั่วๆไป ส่วนเกมอื่นๆสำหรับกิจกรรมพิเศษ เป็นต้นว่า วันเกิดหรือวันหยุด

โคลอสเซียมได้รับการออกแบบและก็สร้างขึ้นภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี สถาปนิก Vespasiano ศิษย์ของ Vitruvius จำต้องออกแบบตึกเพื่อสร้างความประทับใจแล้วก็ขู่เข็ญพสกนิกร เขามีความคล่องตัวมากไม่น้อยเลยทีเดียว แต่เขาก็อยากได้แผนที่กล้าแกร่งเหมือนกัน แผนการได้ปฏิบัติงานในสามขั้นตอน: ระยะเริ่มต้นของการก่อสร้าง ระยะที่สองของการก่อสร้าง แล้วก็ระยะสุดท้ายของการก่อสร้าง

6. มหาพีระมิดแห่งกิซ่า



ที่ใจกลางมหาพีระมิดที่กิซ่า อียิปต์เป็นห้องลับที่ฟาโรห์ฝังและฝังไว้ ชาวอียิปต์โบราณมั่นใจว่าฟาโรห์เป็นวิญญาณที่แผ่นดินซึ่งแสดงออกผ่านทางร่างกายของฟาโรห์ ห้องนี้ตั้งอยู่ที่จุดสุดยอดของปิรามิด พีระมิดได้รับการออกแบบเพื่อสามารถสร้างด้วยชุดของปิรามิดขนาดเล็กที่ซ้อนกัน ปิรามิดแต่ละอันถูกสร้างขึ้นทีละหนึ่งระดับ ห้องที่อยู่กึ่งกลางปิรามิดเป็นห้องฝังศพของฟาโรห์

เพื่อรู้เรื่อง สถาปัตยกรรม ที่แท้จริงของปิรามิดที่ยิ่งใหญ่ในเมืองกิซ่า พวกเราจำต้องเข้าใจความข้องเกี่ยวระหว่างชั้นต่างๆของปิรามิด ความสัมพันธ์ระหว่างปิรามิดกับแผ่นดินที่ถูกทำขึ้น และก็หน้าที่ของแต่ละชั้น ชั้นแรกเป็นพื้นหินปูนที่ปิรามิดผลิตขึ้น มันให้การช่วยเหลือที่จำเป็นสำหรับในการยึดองค์ประกอบทั้งหมด ชั้นลำดับที่สองคือแกนกลางของปิรามิด ให้ความแข็งแรงขององค์ประกอบและก็ความแข็งแกร่งของปิรามิด แกนกลางเป็นบล็อกหินสี่เหลี่ยม แล้วก็เป็นหินประเภทเดียวที่ไม่ได้ทำมาจากหินปูน ชั้นลำดับที่สามคือปลอกของปิรามิด เป็นปลอกหินปูนที่หุ้มศูนย์กลางและยึดแกนรวมทั้งหินอื่นๆไว้ด้วยกัน ชั้นที่สี่เป็นเปลือกของปิรามิด ยิ่งกว่านั้นยังเป็นปลอกหินปูนและก็ใช้เพื่อคุ้มครองปิรามิดจากการกัดเซาะ ยิ่งกว่านั้นยังยกปิรามิดขึ้นและก็คุ้มครองป้องกันไม่ให้น้ำฝนเข้าไปข้างในและสร้างความย่ำแย่ให้กับปิรามิด ชั้นที่ห้าคือส่วนบนของปิรามิด เป็นยอดของปิรามิด มันทำจากหินแกรนิต ชั้นที่หกเป็นศิลาหลัก มันถูกวางเอาไว้ด้านบนยอดปิรามิด เป็นชั้นท้ายที่สุดที่ให้ชื่อปิรามิด

มหาพีระมิดแห่งกิซ่าเป็นงาน สถาปัตยกรรม แล้วก็วิศวกรรมอย่างแท้จริง ฟาโรห์เป็นคนเขียนแบบและก็วิศวกรของสุสานของตัวเอง พวกเขาสร้างโดยใช้กฎแรงโน้มถ่วงตามธรรมชาติแล้วก็น้ำหนักของหินเพื่อสร้างองค์ประกอบ พวกเขาใช้วิธีการเดียวกันของฟิสิกส์แล้วก็กฎของเรขาคณิตสำหรับเพื่อการออกแบบและก็สร้างปิรามิด

มหาพีระมิดถูกทำขึ้นในสองขั้นตอน ขั้นแรกเริ่มเสร็จสมบูรณ์โดยคูฟูซึ่งครองราชสมบัติตั้งแต่ 2589-2566 ปีก่อนคริสตกาล ขั้นตอนที่สองเสร็จสิ้นโดยลูกชายของเขา Khafre ซึ่งครองบัลลังก์ตั้งแต่ 2566-2558 ปีก่อนคริสตกาล


7. วิหารอาร์เทมิส



วิหารอาร์เทมิสผลิตขึ้นในศตวรรษที่ 5 ก่อนช่วงคริสตศักราช และตั้งอยู่เป็นเยี่ยมในเจ็ดสิ่งอัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ เดิมวัดนี้ทำขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่เทพธิดาอาร์เทมิส แล้วก็ได้รับการออกแบบโดยแคสซานเดอร์แห่งมาซิโดเนีย แต่ ในศตวรรษที่ 2 CE มันถูกใช้เป็นป้อมปราการ ในที่สุดวัดก็ย่ำแย่ ต่อจากนั้นในศตวรรษที่ 15 ก็ถูกทำลายโดยพวกเติร์กออตโตมัน เดี๋ยวนี้ สามารถพบวิหารอาร์เทมิสในอะโครโพลิสแห่งเอเธนส์ ประเทศกรีซ

การก่อสร้าง วิหารอาร์เทมิสทำขึ้นในตอนศตวรรษที่ 5 ก่อนช่วงคริสตศักราชในเมืองเอเฟซัส ประเทศตุรกี เป้าประสงค์ดั้งเดิมของสงฆ์เป็นเพื่อเป็นเกียรติแก่เทพธิดาอาร์เทมิส วัดนี้เป็นเลิศในเจ็ดสิ่งอัศจรรย์ของโลกโบราณ ในรัชสมัยของคาสซานเดอร์ที่มาซิโดเนีย วัดแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่นางฟ้าอาร์เทมิส อย่างไรก็แล้วแต่ ในศตวรรษที่ 2 CE มันถูกใช้เป็นป้อม สุดท้ายวัดก็เสื่อมโทรม ต่อจากนั้นในศตวรรษที่ 15 ก็ถูกทำลายโดยพวกเติร์กออตโตมัน ตามคำบอกเล่าของเพาซาเนียส รากฐานของสงฆ์ถูกวางขึ้นในตอนกลางศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตศักราช เมื่อถึงเวลานั้น รอบๆนี้มีผู้คนอาศัยอยู่ขั้นต่ำ 4,000 ปี ในศตวรรษที่ 1 ก่อนช่วงคริสตศักราช เมืองเอเฟซัสมีชื่อเสียงในนาม "ราชินีที่เมือง" ความมั่งมีมาจากการส่งออกเงิน ตะกั่ว และขนสัตว์ วิหารอาร์เทมิสผลิตขึ้นบนเนิน ซึ่งถูกโอบล้อมด้วยกำแพง เนินเขามีรูปร่างเหมือนเรือ โดยมีวัดอยู่ที่หัวเรือ ตัวอาคารทำด้วยหินอ่อนและก็ครอบคลุมพื้นที่ทั้งปวงประมาณ


8. มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์



มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ออกแบบโดยไมเคิลแองเจโล ในฐานะที่เป็นเลิศในสามของเจ็ดมหาวิหารที่ยิ่งใหญ่ของกรุงโรม เสร็จสิ้นในปี 1626 มหาวิหารมีสามส่วน: โบสถ์ พื้นที่หลัก; ทางเท้าซึ่งทอดยาวไปตามข้างๆของฟุตบาทกลาง และปีกนก ซึ่งเป็นส่วนที่เล็กมากยิ่งกว่าตรงข้ามโบสถ์ที่ล้อมรอบด้วยทางเท้า วิหารเป็นหลักที่หลักของมหาวิหาร เสาที่ยาวลงมาสร้างด้วยก้อนอิฐสีแดง ส่วนเสาที่เรียงตามทางเดินเป็นหินอ่อนสีขาว

เมื่อดูแวบแรก การออกแบบมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ดูเหมือนเป็นตึกที่ขวานผ่าซากมาก มหาวิหารเป็นโบสถ์ขนาดใหญ่ ผลิตขึ้นตรงเวลาหลายปีบนที่ดินผืนใหญ่ ข้างหน้าตึกมีทางเข้าออก 3 ทาง แม้กระนั้น ประตูหลักตั้งอยู่ที่ด้านหลังของอาคาร ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของทางเดินกลางของโบสถ์ ตรงนี้เป็นที่ที่คุณเข้าไปในโบสถ์

มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี วางแบบโดยไมเคิลแองเจโล ในฐานะที่เป็นเยี่ยมในสามของเจ็ดมหาวิหารที่ยิ่งใหญ่ของกรุงโรม เสร็จสมบูรณ์ในปี 1626 มหาวิหารมีสามส่วน: โบสถ์ พื้นที่หลัก; ทางเดินซึ่งทอดยาวไปตามด้านข้างของทางเท้ากลาง แล้วก็ปีกนก ซึ่งเป็นส่วนที่เล็กมากยิ่งกว่าตรงกันข้ามโบสถ์ที่ล้อมรอบด้วยทางเดิน วิหารเป็นพื้นที่หลักของมหาวิหาร เสาที่ยาวลงมาสร้างด้วยอิฐสีแดง ส่วนเสาที่เรียงตามทางเดินเป็นหินอ่อนสีขาว

9. นครวาติกัน



นครวาติกันตั้งอยู่ระหว่างกรุงโรมแล้วก็แนวเขาแอลป์สวิสเซอร์แลนด์ เป็นเยี่ยมในประเทศที่เล็กที่สุดในโลกโดยมีสามัญชนไม่ถึง 400,000 คน มันถูกสร้างขึ้นในพื้นที่แอ่งน้ำที่มีทิศทางว่าจะถูกอุทกภัย โป๊ปฟรานซิสตกลงใจสร้างเมืองใหม่บนแผ่นดินนี้ ตัวเลือกของเขาเป็น Castel Sant'Angelo ซึ่งเคยเป็นเรือนจำ ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Tiber รวมทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของนครวาติกัน

สถาปัตยกรรม ของนครวาติกันเกิดขึ้นโดย Gian Lorenzo Bernini ในปี 1644 เขาปรารถนาสถานที่สำหรับสวดมนต์ไหว้พระ แผนเป็นเรื่องที่ไม่ได้ยากเย็น อาคารนี้แบ่งได้สามส่วน เป็นต้นว่า ราชสำนักวาติกัน มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ แล้วก็วังลาเตรัน โครงสร้างนี้มีพื้นฐานมาจากแนวความคิดโรมันโบราณเกี่ยวกับสี่เหลี่ยมด้านเท่า จตุรัสเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดใหญ่ที่ล้อมด้วยตึกต่างๆโดยมีโบสถ์อยู่กึ่งกลาง มีไว้เพื่อเป็นสถานที่สักการะ

วังวาติกันเดิมผลิตขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับของจักรพรรดิสำหรับพระสันตะปาปา จริงๆแล้วมันถูกผลิตขึ้นในศตวรรษที่ 1 และถูกใช้จนถึงยุคกลาง มันถูกใช้เป็นที่พำนักพักพิงของสมเด็จพระสันตะปาปานับจากนั้นเป็นต้นมา วังตั้งอยู่ด้านเหนือของ Castel Sant'Angelo ด้านหน้าพระราชสำนักเบือนหน้าไปทางแม่น้ำไทเบอร์ มีลานเจ็ดที่รวมทั้งลานกลางใหญ่ที่สุด หลังจากนี้ สวนวาติกันจะตั้งอยู่ด้านหลังวัง ดีไซน์โดย Michelangelo แล้วก็มีสระว่ายน้ำ 2 แห่งในสวนนี้ เช่น Piazza del Giardino รวมทั้ง Ponte Sant' Angelo 

10. มัสยิดโซเฟีย



สถาปัตยกรรม ของมัสยิดโซเฟียมีอายุย้อนกลับไปราว500 AD เมื่อทำขึ้นบนที่ตั้งโรงอาบน้ำโรมัน คนเขียนแบบเป็นชาวภาษากรีกชื่อ Anthemius ผู้ออกแบบอาคารและเป็นผู้ดูแลกรุงคอนสแตนว่ากล่าวโนเปิลในตอนนั้น Anthemius อยากอวดผลงานของเขาให้เพื่อนๆแล้วก็เพื่อนบ้านของเขาสร้างโครงสร้างที่ใหญ่โตจนผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกมาสรรเสริญ ตามที่เป็นอยู่ในตอนนี้ Hagia Sophia เป็นโดมที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้วก็สามารถรองรับผู้คนได้มากถึง 6,000 คน

มัสยิดโซเฟียเป็นตัวอย่างที่เด่นของวิธีการใช้ สถาปัตยกรรม เพื่อติดต่อสื่อสารข้อมูลทางศาสนาและวัฒนธรรม ด้วยการใช้ สถาปัตยกรรม และส่วนประกอบการออกแบบ มันสามารถให้กระบวนการทำความรู้ความเข้าใจความหมายเบื้องหลังมัน กล่าวคือ สถาปัตยกรรม สามารถใช้เป็นแบบอย่างหนึ่งของการสื่อสารได้ Hagia Sophia เป็นตัวอย่างที่ดีว่าตึกสามารถถ่ายทอดใจความเฉพาะได้ยังไง อาคารมีความเรียบง่ายแล้วก็ขวานผ่าซากสำหรับการดีไซน์โดยรวม เอกลักษณ์ของมันคือทรงกลม

สถาปัตยกรรม ของสุเหร่าโซเฟียมีเอกลักษณ์เฉพาะบุคคล โดมครอบคลุมส่วนประกอบทั้งหมดและก็ตั้งอยู่ข้างบนของพื้นที่ส่วนกลาง ด้านกึ่งกลางโอบล้อมด้วยแนวเสาขนาดใหญ่ ทุ่งนาร์เทกซ์กลางและก็เสาของโคโลเนดถูกปกคลุมด้วยโดม โดมใส่มงกุฎด้วยกลองทรงกลมที่มีรูกึ่งกลาง

สุเหร่าโซเฟีย โบสถ์อาสนวิหารที่พระสติปัญญาอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นอาสนวิหารที่ใหญ่ที่สุดแล้วก็สำคัญที่สุดของจักรวรรดิไบแซนไทน์ แล้วก็ยอดเยี่ยมในการบรรลุเป้าหมายทาง สถาปัตยกรรม ที่ยิ่งใหญ่ของโลกสมัยโบราณ โบสถ์ที่นี้ทำขึ้นในศตวรรษที่ 4 ได้รับการออกแบบให้เป็นศูนย์กลางของเมืองใหญ่ มีเป้าหมายเพื่อเป็นมหาวิหาร "ราชวงศ์" ที่อุทิศให้กับความจำของจักรพรรดิคอนสแตนตำหนินมหาราชซึ่งเสียชีวิตขณะเยี่ยมชมเมืองในปี 337 อาคารที่มีขนาดดังกล่าวจึงควรมีการวางแบบที่กว้างขวางแล้วก็สลับซับซ้อนซึ่งเป็นไปตามแผน ของโบสถ์คริสต์แห่งแรกที่สร้างขึ้นโดยคอนสแตนติเตียนน โบสถ์แห่งอัครสาวกศักดิ์สิทธิ์

โดยสรุป สถาปัตยกรรม ทั้งยัง 10 กลุ่มนี้มาจากทวีปต่างๆและก็ทั้งหมดมีความโดดเด่นเพราะแบบอย่าง การออกแบบ และการก่อสร้างที่เป็นเอกลักษณ์ สิ่งที่นักออกแบบกลุ่มนี้มีเหมือนกันคือพวกเขาทั้งหมดมีความคลั่งไคล้ในสิ่งที่พวกเขาทำ พวกเขาใช้ความคลั่งไคล้นี้เพื่อสร้างสไตล์ที่ไม่ซ้ำใครซึ่งง่ายต่อการเจาะจง

Panitsupa


Panitsupa


Panitsupa


Panitsupa


Panitsupa


Panitsupa


Panitsupa


Panitsupa


Panitsupa


Panitsupa