ความแตกต่างของ โครงหลังคาโรงงาน เหล็ก และโครงหลังคาสำเร็จรูป

[Commonground]

การก่อสร้างโรงงาน หรือสถานประกอบการสักแห่งให้มีความแข็งแรงนั้น สิ่งสำคัญคือโครงสร้างโรงงานที่แข็งแรง นอกจากงานโครงสร้างใต้ดิน และบนดินแล้ว งานโครงสร้างหลังคาก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะ โครงหลังคาโรงงาน เป็นส่วนที่ทำหน้าที่รองรับวัสดุมุงหลังคา และอุปกรณ์งานประกอบต่าง ๆ ให้สามารถป้องกันโรงงานจากแสงแดด ฝน และลมพัดแรง ๆ ได้เป็นอย่างดี

งานโครงสร้างหลังคาจึงต้องถูกออกแบบ และผ่านการคำนวณมาอย่างเหมาะสม โดยการติดตั้งอย่างถูกวิธี มีการเชื่อมยึดที่แน่นหนา เพื่อให้มีความแข็งแรง และช่วยลดปัญหาหลังคารั่วซึม ในปัจจุบันมีโครงสร้างหลังคาที่นิยม และมีความแข็งแรงคือ โครงหลังคาเหล็ก และโครงหลังคาสำเร็จรูป ซึ่งมีความแตกต่างกัน ดังนี้

โครงหลังคาโรงงาน เหล็ก
การติดตั้ง โครงหลังคาโรงงาน เหล็ก จะเป็นลักษณะการติดตั้งหน้างานทั้งหมด จึงต้องอาศัยช่างฝีมือที่มีประสบการณ์ โดยก่อนการติดตั้งต้องมีการทาสีกันสนิมให้ทั่วทุกด้านของผิวเหล็กก่อน จากนั้นจึงติดตั้ง และเชื่อมเหล็กตามวิธีมาตรฐาน โครงหลังคาโรงงาน เหล็ก สามารถตอบโจทย์รูปทรงหลังคาได้ค่อนข้างอิสระ จึงเหมาะกับโรงงาน และบ้านทุกสไตล์ เพราะคุณสมบัติเรื่องความยืดหยุ่น ดัดโค้งได้ และระยะของโครงสร้างหลังคาเหล็กที่ยื่นได้ไกล ทำให้สามารถรองรับหลังคาทรงเหลี่ยม และทรงโค้งได้ ที่สำคัญควรให้วิศวกรโครงสร้างที่มีใบประกอบวิชาชีพ เป็นคนออกแบบ และคำนวณโครงหลังคาเหล็ก เพื่อให้ได้มาตรฐาน และความปลอดภัย

โครงหลังคาสำเร็จรูป
โครงหลังคาสำเร็จรูป เป็นโครงที่ผลิตจากเหล็กที่มีกำลังดึงสูง และผ่านการเคลือบสนิมด้วยอะลูมิเนียมซิงค์ หรือแมกนีเซียมซิงค์ ทำให้มีราคาสูงกว่าโครงหลังคาเหล็ก ด้วยความที่โครงหลังคาสำเร็จรูปมีลักษณะเป็นโครงถัง (Truss) ประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนของเหล็กกัลวาไนซ์หลาย ๆ ท่อน ไม่สามารถทำระยะยื่นชายคาได้มากนัก ทำให้มีข้อจำกัดเรื่องรูปทรงหลังคา

สรุปหากเปรียบเทียบ โครงหลังคาโรงงาน เหล็ก และโครงหลังคาสำเร็จรูป การเลือกใช้โครงหลังคาสำเร็จรูปจะมีราคาโดยรวมที่สูงกว่า แต่สามารถมั่นใจในเรื่องของมาตรฐาน และการรับประกันผลงานหลังการติดตั้ง ส่วน โครงหลังคาโรงงาน เหล็กนั้นสามารถตอบโจทย์งานออกแบบที่หลากหลายกว่าโครงหลังคาสำเร็จรูป

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : หลังคาเมทัลชีท