• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

บอร์ด รฟท.เตรียมชงครม.อนุมัติโครงการรถไฟทางคู่ขอนแก่น-หนองคาย คาดก่อสร้างปี 66

Started by Ailie662, January 04, 2022, 08:00:53 PM

Previous topic - Next topic

Ailie662

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ รฟท. (บอร์ด รฟท.) ล่าสุด มีมติอนุมัติดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กม. มูลค่าโครงการ 29,748 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าจ้างที่ปรึกษา สำรวจอสังหาริมทรัพย์ 9 ล้านบาท ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 369 ล้านบาท ค่าที่ปรึกษาจัดการประกวดราคา 7 ล้านบาท ค่าก่อสร้าง 28,759 ล้านบาท ค่าจ้างควบคุมงานก่อสร้าง 604 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินโครงการ ปี 2565-2569

โดยหลังจากนี้ รฟท. จะสรุปรายละเอียดนำเสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติโครงการต่อไป

ทั้งนี้ ไทม์ไลน์เบื้องต้น คาดว่า ครม. จะอนุมัติโครงการประมาณ ไตรมาส 2/65 จากนั้นจะดำเนินการ ออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดิน ไตรมาส 3-4/65 พร้อมกับจัดทำร่าง TOR ราคากลางและประกวดราคา จากนั้นจะเริ่มสำรวจอสังหาริมทรัพย์ และจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินในปี 2566 -2567 และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้าง ในปี 2566 โดยใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน แล้วเสร็จต้นปี 2569

สำหรับรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย เป็นหนึ่งในโครงการในแผนการพัฒนารถไฟทางคู่ระยะ 2 ที่มีจำนวน 7 โครงการ ระยะทาง 1,483 กม. วงเงินลงทุนรวมกว่า 2.73 แสนล้านบาท ซึ่งจากที่สำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ให้ รฟท.ศึกษาและจัดลำดับความสำคัญ พบว่าโครงการช่วงขอนแก่น-หนองคาย มีความสำคัญมากที่สุด เนื่องจากเป็นเส้นทางตามยุทธศาสตร์ที่เชื่อมต่อกับ สปป.ลาว ที่มีเส้นทางรถไฟเชื่อมไปยังประเทศจีนตอนใต้ และปัจจุบันได้เปิดให้บริการแล้ว

นอกจากนี้ ยังมีความพร้อมที่สุด เพราะมีการออกแบบแล้ว ได้รับอนุมัติรายงานการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้ว มีอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) 18.46 %

นายนิรุฒ กล่าวว่า ส่วนรถไฟทางคู่ระยะ 2 ที่เหลืออีก 6 เส้นทาง ได้แก่ ปากน้ำโพ-เด่นชัย, เด่นชัย-เชียงใหม่, ชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี, ชุมพร-สุราษฎร์ธานี, สุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา และชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์นั้น เส้นทางที่มีความสำคัญ และควรเร่งผลักดันในลำดับต่อไป คือ ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย เพื่อเชื่อมต่อกับรถไฟทางคู่สายใหม่ ช่วงเด่นชัย -เชียงราย-เชียงของ