• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

BAANDY เปิดแผนปี 65 ลุยตลาดเชิงรุกด้วยกลยุทธ์ O2O

Started by Fern751, January 27, 2022, 02:51:10 PM

Previous topic - Next topic

Fern751

BAANDY เปิดแผนปี 65 ลุยตลาดเชิงรุกด้วยกลยุทธ์ O2O สร้างฐานลูกค้าสู่เป้าหมาย 3,000 ร้านค้าทั่วประเทศ

BAANDY เปิดแผนปี 65 ลุยตลาดเชิงรุกด้วยกลยุทธ์ O2O สร้างฐานลูกค้าสู่เป้าหมาย 3,000 ร้านค้าทั่วประเทศ
"BAANDY" (บานดี้) เปิดแผนปี 65 ชูกลยุทธ์ลุยตลาดแพลตฟอร์ม ออมนิ มาร์เก็ต (Omni Market) ตลาดซื้อ-ขายวัสดุก่อสร้างออนไลน์ อัดโปรโมทด้วยกลยุทธ์ O2O อัพฐานลูกค้าสู่ 3,000 ร้านค้าทั่วประเทศ ขยายฐานลูกค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และตะวันออก เดินหน้าพัฒนาแอปพลิเคชันเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานและเพิ่มรายการสินค้าวัสดุก่อสร้าง-ตกแต่งบ้านครบครัน ตอบโจทย์การใช้งานต่อกลุ่มเป้าหมาย ตั้งเป้ามีสินค้าวัสดุก่อสร้างและของใช้เกี่ยวกับบ้าน มากกว่า 40,000 รายการให้ลูกค้าเลือกซื้อ

นายณัฏฐ์นวัต พันธุกรกวีวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะ บานดี้ จำกัด ผู้พัฒนา BAANDY แอปพลิเคชัน ซื้อ-ขายวัสดุก่อสร้างครบวงจร สินค้าตกแต่ง ฝีมือคนไทย เปิดเผยว่า ปี 2565 ถือเป็นปีที่ท้าทายในการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างมาก จากปัจจัยสำคัญของการแพร่ระบาด Covid-19 ในประเทศ โดยเฉพาะสายพันธุ์ Omicron ที่ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากเกิดการระบาดระลอกใหม่และครอบคลุม ระยะเวลานาน จะส่งผลต่อการฟื้นตัวของกิจกรรมเศรษฐกิจและกำลังซื้อ

ขณะที่ภาพรวมมูลค่าตลาดวัสดุก่อสร้างปี 2565 มองว่าจะเติบโตประมาณ 3-5% จากปีก่อน แม้ว่าสถานการณ์ Covid-19 จะส่งผลกระทบในปีที่แล้วเป็นอย่างมาก แต่ในปีนี้ประเทศไทยเริ่มรับมือและเข้าถึงวัคซีนมากขึ้น ดังนั้นปัจจัยดังกล่าวทำให้มีดีมานด์ของการใช้จ่ายสูงขึ้น ประกอบกับผู้ประกอบการในธุรกิจอุตสาหกรรมก่อสร้างต่างปรับกลยุทธ์สร้างการเติบโต และจัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ ซึ่งในขณะเดียวกันทำให้ทางฝ่ายผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างหลายรายจำเป็นต้องผลิตสินค้าเพิ่มขึ้นให้มากเพื่อลดต้นทุนการผลิตต่อหน่วยให้สามารถแข่งขันได้ โดยมองว่าปัจจัยดังกล่าวจะทำให้ตลาดขยายตัวกว่าปีที่ผ่านมา

โดยปีนี้ BAANDY ตั้งเป้าการเติบโตมากกว่าตลาด เนื่องจาก BAANDY เป็นกลุ่มสตาร์ทอัพด้านบริหารจัดการเทคโนโลยีรูปแบบแพลตฟอร์มทันสมัยให้ลูกค้าซื้อ-ขายสินค้าได้ง่ายขึ้น ซึ่งจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง ต้องการความรวดเร็ว สะดวกสบาย ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี ประกอบกับประสบการณ์ในการคลุกคลีกับกลุ่มร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างมายาวนาน จึงมีความเข้าใจในพฤติกรรมการเลือกซื้อ และปัจจัยที่มีความสำคัญต่อการเลือกซื้อวัสดุก่อสร้างของผู้บริโภคเป็นอย่างดี

"ในปี 2564 ที่ผ่านมา เราเน้นการลงทุนพัฒนาแฟลตฟอร์ม BAANDY เป็นหลัก หลังการเปิดตัวได้รับกระแสตอบรับที่ดีและมียอดขายรวมกว่า 6,000 รายการ เราจึงมองเห็นโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้ซื้อและผู้ขายที่เปลี่ยนไป ประกอบกับปีที่แล้วเรางดเว้นค่าบริการให้ร้านค้า ไม่เก็บค่าใช้แพลตฟอร์มกับร้านค้าและผู้ประกอบการ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้ร้านค้าวัสดุก่อสร้าง ก้าวผ่านวิกฤตสถานการณ์ Covid-19 ไปได้ จึงทำให้มีร้านค้าวัสดุก่อสร้าง และผู้บริโภค ให้ความสนใจหันมาทดลองใช้บริการแพลตฟอร์ม BAANDY มากขึ้น โดยในปี 2565 เตรียมขยายฐานลูกค้าครอบคลุมทุกภาคทั่วประเทศ และตั้งเป้ามีสินค้าวัสดุก่อสร้างและของใช้เกี่ยวกับบ้าน มากกว่า 40,000 รายการให้ลูกค้าเลือกซื้อ"นายณัฏฐ์นวัตกล่าว

สำหรับกลยุทธ์การดำเนินงานในปี 2565 ประกอบด้วย

1.มุ่งเน้นการตลาดเชิงรุก ด้วย ออมนิ มาร์เก็ต (Omni Market) แพลตฟอร์มวัสดุก่อสร้างออนไลน์และแอปพลิเคชันค้าปลีกรายแรกในประเทศไทย พร้อมโปรโมททั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ที่สามารถซื้อ-ขายวัสดุก่อสร้างได้จริงในทุกๆ สินค้า (B2C) ด้วยกลยุทธ์ O2O (Online to Offline) โดยเน้นให้บริการนำระบบดิจิทัลเทคโนโลยีมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ซื้อและผู้ขายวัสดุก่อสร้าง จากการขายสินค้าหน้าร้านปกติที่เป็นออฟไลน์ให้เชื่อมโยงกับการขายออนไลน์ รวมถึงเพิ่มการจัดกิจกรรมการตลาดด้วยรูปแบบสัมมนา จัดอีเวนต์แบบเข้าถึงร้านค้าและผู้ซื้อเพิ่มขึ้น

2.ขยายจำนวนร้านค้าที่อยู่บนแอปพลิเคชันบานดี้ไปสู่เป้าหมายระดับ 3,000 ร้านค้า จากปัจจุบันมีร้านค้าเปิดและพร้อมขายสินค้าแล้วกว่า 900 ร้านค้าในภาคตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะเดียวกันบริษัทจะเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้ทั้ง 900 ร้านค้าเดิม ให้สามารถใช้ข้อมูลในระบบฐานปฏิบัติการได้อย่างชำนาญและพร้อมขยายงานได้ในแต่ละรายมากขึ้น เพื่อให้ฝ่ายขายสามารถปิดการขายได้ทั้งระบบออฟไลน์และออนไลน์ได้รวดเร็วขึ้น โดยปีนี้เน้นขยายพื้นที่ให้ครอบคลุมภาคตะวันออกเป็นหลัก และจะขยายฐานลูกค้าภาคอีสานตอนบน และกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ในลำดับต่อไป

3.วางแผนเพิ่มจำนวนรายการสินค้าที่หลากหลาย เป็น 4 หมื่นรายการ จากปัจจุบันมีราว 1.5 หมื่นรายการ เพื่อเพิ่มช่องทางสร้างรายได้อีกหนึ่งช่องทาง โดยเตรียมเพิ่มสินค้า อาทิ สินค้าเกษตรและอะไหล่ยนต์ จากเดิมมีสินค้าประเภทวัสดุก่อสร้างสำหรับตกแต่ง ซ่อมแซม ต่อเติม, งานโครงสร้าง (เหล็ก หิน ปูน ทราย), กระเบื้อง, อุปกรณ์ช่าง ฮาร์ดแวร์อุปกรณ์งานระบบไฟฟ้า / ประปา, อุปกรณ์ตกแต่งสวน, สุขภัณฑ์, สี / เคมีภัณฑ์ เป็นต้น เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย

4. พัฒนาแพลตฟอร์ม BAANDY Terminal ช่วยร้านค้าวัสดุก่อสร้างบริหารจัดการหน้าร้าน ใช้งานง่ายขึ้น โดยการเชื่อมต่อระบบปฏิบัติการขายหน้าร้านกับระบบการขายออนไลน์ แบบทันท่วงที (Real time) ตลอดจนเสริมทีมบริหารพิเศษเฉพาะเรื่องการสะสมแต้มและเหรียญ BAANDY ในอนาคตอีกด้วย

นายณัฏฐ์นวัต กล่าวต่อว่า ด้วยกลยุทธ์ขยายธุรกิจเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า บริษัทยังวางแผนพัฒนาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเปลี่ยนแปลงวงการค้าขายวัสดุก่อสร้าง ด้วยกลยุทธ์การเชื่อมโยงระบบออนไลน์ให้กับร้านค้าแต่ละพื้นที่ ด้วยการปรับฐานราคาให้เหมาะสม การเคลียร์ระบบสต็อกเก่าให้เป็นปัจจุบันมากขึ้น จากระบบออฟไลน์สู่ระบบออนไลน์ได้อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมกับทำระบบบริหารจัดการหน้าร้านให้สอดคล้องกับปัจจุบัน โฟกัสด้านการขาย ระบบบริหารสต็อก ระบบบัญชี เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของร้านค้าต่างๆ โดยร้านค้าสามารถบริหารหน้าร้านและขายออนไลน์ได้เชื่อมต่อกัน ผ่านระบบปฏิบัติการที่คาดว่าเตรียมเปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 นี้

สำหรับร้านค้าและผู้สนใจ สามารถดาวน์โหลด BAANDY แอปพลิเคชัน ได้ฟรี ทาง App Store และ Google play หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถติดต่อทีมงานผู้ช่วยส่วนตัวได้ที่ 02 091 5999 เวลา 09.00 - 18.00 น.