• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

เรื่องย่อ โอปปาติก เกิดอมตะ

Started by Raksngbs, January 21, 2024, 06:46:14 AM

Previous topic - Next topic

Raksngbs

การกำเนิด ทางหลักชีววิทยาทางพุทธศาสนามี  4  รูปแบบ

ชลาพุชะ คือ เกิดในครรภ์ คลอดออกมาเป็นตัว เช่น คน, หมา, แมว, ช้าง เป็นต้น
อัณฑชะ คือ เกิดในไข่ ออกมาเป็นฟองและฟักเป็นตัว เช่น ไก่, นก, เป็ด, จิ้งจก เป็นต้น
สังเสทชะ คือ เกิดในไคล เกิดในสภาพชื้นแฉะหมักหมมเน่าเปื่อย เช่น หนอน, จุลินทรีย์ เป็นต้น
โอปปาติก คือ เกิดผุดขึ้นเต็มตัวทันที เช่น เทวดา, อสูรกาย, ผี, มนุษย์บางจำพวก (พระอนาคามี)

ความรู้เรื่องการเกิดใหม่ของสรรพชีพสรรพสัตว์ใน 4 รูปแบบของพุทธศาสนา นับว่าเป็นก้าวหน้ากว่าทางวิทยาศาสตร์ เพราะในวงการวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสาขาวิชาพันธุศาสตร์ยังไม่อาจเข้าถึงความรู้เรื่องกำเนิดของสิ่งมีชีวิตในรูปแบบที่  4  "โอปปาติก" ได้เลย แต่ในทางพุทธศาสนามีมานาน 2 สหัสวรรษแล้ว

พลังงาน (วิญญาณ) ในมิติคู่ขนาน (สัมปรายภพ)

มีผู้กล่าวว่าสรรพสิ่งต่างๆ ที่มนุษย์แลเห็น มันเป็นเพียงแค่เปลือกนอกซึ่งเป็นตัวแทนของบางสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใน ซึ่งก็คือพลังงานอันเป็นแก่นแท้ที่เร้นอยู่ภายใน ร่างกายภายนอกจึงไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของมนุษย์ และเมื่อร่างกายเสื่อมสลายลง สิ่งที่ต้องดำรงอยู่ต่อไปก็คือพลังงานที่ดำรงอยู่ภายในที่เป็นแก่นแท้นั่นเอง

บางครั้งการที่เรามองไม่เห็นบางสิ่งหรือพิสูจน์ไม่ได้ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ก็ไม่ได้หมายความว่า สิ่งนั้นไม่มีอยู่ กล่าวได้ว่าภพหน้านั้น ถ้าหากมีสถิตอยู่ที่ไหน ก็ตอบได้ง่ายๆ ว่าอยู่ในโลกเดียวกันกับมนุษย์โลกของเรานี่เอง เพียงแต่คงรูปเป็นพลังงานที่เรามองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่าของมนุษย์ เนื่องจากอินทรียวิสัยคือตาและจิตของเรา ไม่มีศักยภาพพอที่จะมองเห็น หากแต่ว่าเราแปรสภาพเป็นพลังงาน (วิญญาณ) อันเป็นแก่นแท้ของมนุษย์เมื่อใด  เมื่อนั้นอินทรียวิสัยของเราก็จะมีศักยภาพพอที่จะมองเห็นในภพภูมิที่ซ้อนทับอยู่ได้ ดังที่เราเรียกกันติดปากว่า "โลกหน้า" หรือ "สัมปรายภพ" นั่นเอง

"เจตภูติ" หมายถึง ร่างทิพย์ (Astral Body) ตามลัทธิโยคีโบราณ ไม่ใช่วิญญาณ แต่เป็นกายทิพย์ที่เคลื่อนออกจากร่างและปรากฏตัวให้เห็นเป็นครั้งคราว ลัทธิโยคีโบราณ แบ่งมนุษย์ออกเป็น 7 ชั้น ดวงวิญญาณอยู่ชั้นในสุด

7. วิญญาณ 6. ดวงจิต 5. ปัญญา 4. สัญญา 3. ปราณ 2. เจตภูติ 1. ร่างกาย