อันตรายที่เกิดขึ้นจากด้านการกิน “บอแรกซ์”

[rapikrgy]

ผู้เชี่ยวชาญแนะ บอแรกซ์ อันตรายต่อสุขภาพ หลังมีกระแสเสนอแนะให้กินกันเยอะขึ้นในโลกออนไลน์ ผู้ที่รับประทานบอแรกซ์อาจมีอาการอ่อนแรง เบื่อข้าว น้ำหนักลด เป็นพิษต่อไตรวมทั้งสมอง ขึ้นอยู่กับจำนวนที่กิน

ในโลกออนไลน์มีการเชื้อเชิญให้บริโภค "บอแรกซ์" โดยอ้างสรรพคุณว่าช่วยกระตุ้นฮอร์โมนทางเพศ และก็ดีต่อร่างกาย แต่ว่าในทางวิทยาศาสตร์และก็การแพทย์แล้ว บอแรกซ์เป็นสิ่งให้โทษต่อสภาพทางด้านร่างกาย

ข้อมูลที่ได้มาจาก เพจเฟซบุ๊ก อ๋อ มันเป็นแบบนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ ของ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมทั้งเพจ หมอแล็บแพนด้า ต่างก็บอกว่า บอแรกซ์เป็นสารเคมีที่ไม่ควรเอามาบริโภคมากจนเกินความจำเป็น หรือตลอดยาวนานเกินไป และไม่ควรมุ่งเน้นบริโภคในเชิงเป็นอาหารเสริม เพื่อสุขภาพแต่อย่างใด

บอแรกซ์ เป็นยังไง
บอแรกซ์ ชื่อว่า โซเดียมโบเรท (Sodium Borate) หรือที่เราเรียกกันว่าผงกรอบหรือน้ำประสานทอง เป็นสารเคมีที่มีลักษณะเป็นผงสีขาว ไม่มีกลิ่น มีรสขมน้อย มีชื่ออื่นๆอีก ดังเช่นว่า น้ำประสานทอง สารข้าวตอกแตก ผงกันบูด จ้องดูแซ เม่งแซ ผงเนื้อนิ่ม

บอแรกซ์ เป็นสารที่ใช้ในอุตสาหกรรม เช่น ใช้ทำแก้วเพื่อทำให้ทนความร้อน เป็นสารประสานสำหรับในการเชื่อมทอง รวมทั้งเป็นสารยั้งการเจริญก้าวหน้าของเชื้อราในแป้งทาตัว เป็นต้น

อันตรายของบอแรกซ์
มีการนำบอแรกซ์มาใช้ผิดจุดประสงค์โดยเอามาผสมในของกิน เพื่อของกินมีความหยุ่นกรอบ คงตัวได้นาน ไม่บูดเสียง่าย อาหารที่มักพบว่ามีสารบอแรกซ์ ได้แก่ หมูบด ลูกชิ้น ทอดมัน หมูสด เนื้อสด ไส้กรอก ผลไม้ดอง ทับทิมกรอบ ลอดช่อง เป็นต้น

บอแรกซ์ มีอันตรายในของกิน (food hazard) ประเภทอันตรายทางเคมี (chemical hazard) เป็นสารเคมีห้ามใช้ในของกิน (prohibit substances) ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 151 (พ.ศ. 2536) เรื่องวัตถุที่ห้ามใช้ในอาหาร

พิษของสารบอแรกซ์ เกิดได้สองกรณี คือ

พิษแบบกระทันหัน จะมีลักษณะคลื่นไส้ อ้วก คนแก่ ได้รับสารบอแรกซ์ 15 กรัม และ เด็ก ได้รับ 5 กรัม จะมีผลให้อาเจียนเป็นเลือดรวมทั้งถึงแก่กรรมได้ ข้างใน 3-4 ชั่วโมง
พิษแบบเรื้อรัง จะมีลักษณะหมดแรง ไม่อยากกินอาหาร ผิวหนังแห้ง ใบหน้าบวม เยื่อตาอักเสบ และก็ตับไตอักเสบ
ความร้ายแรงของอาการที่เกิดขึ้น ขึ้นกับปริมาณที่รับประทานเข้าไปในร่างกาย

บอแรกซ์ เป็นประโยชน์ไหม
จากที่มีการอ้างสรรพคุณของบอแรกซ์ว่าใช้ผสมกับสารเคมีตัวอื่นๆเพื่อใช้ผลิตยาหยอดตา รวมถึงยาลดลักษณะของการปวดบวม ซึ่งล้วนแล้วแต่ใช้ข้างนอกร่างกาย แต่ช่วงเวลาเดียวกัน หลายข้อที่อ้างถึงว่ากินบอแรกซ์แล้วได้ประโยชน์นั้น (อาทิเช่น ป้องกันโรคไขข้อ ขจัดปัญหาฮอร์โมนเพศ) ทาง Lybrate เพจสุขภาพของประเทศอินเดีย อ้างอิงจากตำราเรียนยาจีน และก็แบบเรียนยาอินเดียโบราณที่ชื่อว่า คัมภีร์อายุรเวท AYURVEDA โดยอ้างถึงบทความเรื่อง Utilization of Borax In The PharmaceuticoTherapeutics of Ayurveda in India เผยแพร่ในวารสาร Indian Journal of History of Science (วารสารประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์ของอินเดีย) ซึ่งเนื้อหานี้เรียบเรียงประเด็นการนำเอาบอแรกซ์มาใช้ในยุคอินเดียโบราณกว่า 5 พันปีกลายไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการพิสูจน์รับรองแล้วว่าสามารถนำมาใช้ได้ผลจริง ด้วยหลักฐานด้านการแพทย์ในขณะนี้

ในเวลาที่ รายละเอียดบทความส่วนที่พูดถึงเรื่องผลกระทบและอาการแพ้ของบอแรกซ์นั้น ทางเพจได้อ้างถึงบทความเรื่อง Toxicologic studies on borax and boric acid. จากนิตยสาร Toxicology and applied pharmacology ซึ่งเป็นวารสารทางวิทยาศาสตร์ด้านพิษวิทยารวมทั้งเภสัชศาสตร์ ที่มีความน่าวางใจใช้ได้ รวมทั้งตรงกับองค์วิชาความรู้ทั่วไปในขณะนี้ที่เรามี ว่าบอแรกซ์มีอันตรายอย่างไรบ้าง

ซึ่งทางเพจ Lybrate เอง ก็สรุปเนื้อหาเกี่ยวกับผลข้างเคียงของบอแรกซ์ไว้ว่า "โดยปกติไม่แนะนำให้บริโภคบอแรกซ์เข้าไป แล้วการใช้ข้างนอกนั้น ก็ทำให้เกิดความเคืองต่อผิวได้ไพเราะมันมีความเป็นด่างสูง ยังมีรายงานอีกด้วยถึงผลจากการลบต่อระบบขยายพันธุ์และการเจริญเติบโตของทารกในท้อง รวมทั้งยังไม่ชี้แนะให้ใช้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานอีกด้วย เพราะเหตุว่ามันเป็นไปได้ที่จะทำให้ไตดำเนินงานไม่ปรกติจากการที่บอแรกซ์สะสมในร่างกาย พิษของบอแรกซ์ยังสามารถส่งผลให้เกิดความอ่อนเพลียแล้วก็อ้วก ฯลฯ"

โดยเหตุนี้ โดยรวมแล้ว การกล่าวอ้างว่าบอแรกซ์มีสาระต่อร่างกายจนถึงเอามาเป็นกระแสความเชื่อกันนั้น ส่วนมากก็คืออ้างตามศาสตร์การแพทย์อินเดียโบราณ ไม่ใช่กรรมวิธีใช้เป็นยา ตามความรู้ทางด้านการแพทย์ของพวกเราในปัจจุบันแต่เช่นไร แล้วก็ยังเสี่ยงส่งผลใกล้กันต่อสุขภาพด้วยซ้ำ

อ่านบทความอื่นๆ 

• https://goodlooks.in.th
  
• https://physicalbeauty.in.th
  
• https://bodyhealth.in.th
  
• https://hygiene.in.th
  
• https://absoluteness.in.th