• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

'Common Prosperity ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน' นโยบายล่าสุดของจีนที่ไม่อาจเพิกเฉย

Started by Thetaiso, September 03, 2021, 11:01:15 PM

Previous topic - Next topic

Thetaiso



ความพยายามในการออกมาตรการและข้อบังคับของรัฐบาลจีนเป็นไปเพื่อการควบคุมและจัดระเบียบเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ทำให้ในระยะสั้นตลาดหุ้นอาจเกิดความผันผวนจากนโยบายของรัฐบาล
ในช่วงที่ผ่านมา ปธน. สี จิ้น ผิง ได้เน้นย้ำถึงการสนับสนุน "ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน หรือ Common Prosperity" เพื่อจัดการกับช่องว่างความร่ำรวยขนาดใหญ่ในประเทศ โดยสำนักข่าว Bloomberg ได้มีการนับคำพูดดังกล่าวของ ปธน.สีจิ้นผิงในปี 2021 มากกว่า 60 ครั้ง ถือเป็นการพูดที่เพิ่มขึ้นมากกว่าปีก่อนๆ สะท้อนโอกาสสูงที่นโยบายที่เกี่ยวข้องจะถูกนำมาบังคับใช้ ส่งผลให้มหาเศรษฐีหลายรายถูกจับตามอง ดังเช่น กรณี Jack Ma อดีตมหาเศรษฐีที่ถือว่าร่ำรวยติดอับดับของประเทศจีน มีมูลค่าทรัพย์สินลดลง หลังได้รับผลกระทบจากมาตรการและข้อบังคับใหม่ๆ ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นของบริษัทให้ปรับตัวลดลงอีกด้วย



มหาเศรษฐีจีน 10 อันดับแรกพบว่ามีเพียง 5 ราย ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับกลุ่มเทคโนโลยี

ตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมารัฐบาลจีนมีความต้องการที่จะลดระดับช่องว่างความมั่งคั่งที่ขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความกังวลต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีและการเงินที่อาจถูกควบคุมโดยบริษัทเอกชนบริษัทใดบริษัทหนึ่ง ส่งผลให้ในเดือนพ.ย. 2020 เป็นต้นมา รัฐบาลจีนได้ออกกฎระเบียบเพื่อควบคุมกำกับดูแลบริษัทเอกชน โดยเฉพาะบริษัทเทคโนโลยี ทั้งการป้องกันการผูกขาดการค้า (Antitrust), การควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล, การควบคุมโรงเรียนกวดวิชา และการควบคุมและจำกัดเวลาในการเล่นเกมออนไลน์ของเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี นอกจากนั้นรัฐบาลยังได้ประกาศแผนปฏิรูปเศรษฐกิจในช่วง 5 ปีข้างหน้า (ปี 2021-2025) ในการยกระดับการคุมเข้มในหลายอุตสาหกรรม เพื่อการดำเนินชีวิตและการมีสุขภาพที่ดี และคงความเท่าเทียมของประชาชนโดยรวม

จากมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุด 500 รายทั่วโลกที่ได้รับการจัดอันดับโดย Bloomberg พบว่า มีมหาเศรษฐีจีน 81 ราย มีมูลค่าทรัพย์สินรวมกันทั้งสิ้น $1.1 ล้านล้าน เป็นรองเพียงสหรัฐฯเท่านั้น นอกจากนั้น UBS Group AG ยังประมาณการไว้ว่าในปีที่ผ่านมา ประเทศจีนมีมหาเศรษฐีที่มีมูลค่าทรัพย์สินระดับพันล้านกว่า 380 ราย


ทั้งนี้จากมหาเศรษฐี 10 อันดับแรกของจีน พบว่ามี 5 รายที่เป็นเจ้าของบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น Zhang Yiming Huay (ByteDance), Ma Huateng (Tencent), Jack Ma (Alibaba), Colin Huang (Pinduoduo) และ William Ding (NetEase) โดยเกือบทั้งหมดมีมูลค่าทรัพย์สินในปีนี้ลดลงจากปีก่อน อย่างไรก็ดี บุคคลดังกล่าวมีท่าทีและส่งสัญญาณบวกช่วยลดแรงกดดันที่เกิดขึ้นจากรัฐบาล  หลายท่านมีการบริจาคเงิน และประกาศจะทำงานเพื่อช่วยเหลือสังคม  อาทิ Zhang Yiming ผู้ก่อตั้ง Bytedance ระบุจะลาออกจากตำแหน่ง CEO ในปีนี้และจะทำงานช่วยสังคม หรือ ผู้ก่อตั้ง Tencent Holding นาย Ma Huateng ระบุจะบริจาคเงินสำหรับการกุศลสูงถึง $15 billion ในเดือน ส.ค. 


บริษัทจดทะเบียนหลายแห่ง ล้วนออกมาตอบรับนโยบายของรัฐบาล สร้างบรรยากาศผ่อนคลายให้กับการลงทุน

บริษัทจีนกว่า 73 บริษัทได้ตอบรับนโยบายความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันของรัฐบาล โดย Ping An, Meituan และ Bank of China ได้เน้นย้ำถึงความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันและการลดความเหลื่อมล้ำในรายงานนำส่งผู้ถือหุ้นสำหรับเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นสัญญาณบวกที่เกิดขึ้น และเชื่อว่าจะเป็นสัญญาณบวกต่อบรรยากาศลงทุน

Meituan – ผู้ให้บริการส่งอาหารรายใหญ่ของจีน ได้กล่าวในรายงานผู้ถือหุ้นถึงการสนับสนุนความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันในสังคมที่ขยายขึ้น และได้เน้นย้ำถึงความเจริญร่วมกันที่อยู่ในสายเลือดของบริษัท

Pinduoduo - ผู้ให้บริการ E-Commerce รายใหญ่ของจีน ได้ประกาศบริจาคกำไรทั้งหมดในไตรมาส 2/21 กว่า $372 ล้านให้กับโครงการพัฒนาภาคการเกษตรในพื้นที่ชนบทของจีน ซึ่งถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของบริษัท รวมถึงยังยังตั้งเป้าหมายบริจาคในส่วนอื่นๆเพิ่มเติมรวมทั้งสิ้นกว่า $1.5 พันล้าน

Tencent - บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของจีนประกาศบริจาคเงินกว่า $7.7 พันล้านให้กับโครงการแก้ไขปัญกาความยากจนและความไม่เท่าเทียมทางการศึกษาของจีน รวมถึงยังได้ตั้งเป้าหมายในการบริจาคเพิ่มขึ้นอีกกว่าสองเท่าสำหรับโครงการ หรือคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น $1.5 หมื่นล้าน

ความพยายามในการออกมาตรการและข้อบังคับของรัฐบาลจีนเป็นไปเพื่อการควบคุมและจัดระเบียบเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ทำให้ในระยะสั้นตลาดหุ้นอาจเกิดความผันผวนจากนโยบายของรัฐบาล แต่ราคาหุ้นหลายบริษัทที่ปรับลงมาถือว่าได้รับข่าวไปมากแล้ว และเชื่อว่ารัฐบาลไม่ได้มีความต้องการที่จะหยุดการเติบโตและการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ดังนั้นในระยะข้างหน้าหากการจัดระเบียบเป็นไปอย่างเรียบร้อย เชื่อว่าผลที่เกิดขึ้นจะเป็นแรงผลัดดันให้เกิดการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน ตามที่รัฐบาลจีนเคยประกาศเจตจำนงเอาไว้

Source: Bloomberg

 

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.ทิสโก้ หรือ TISCO Contact Center โทร. 0 2633 6000 กด 4, 0 2080 6000 กด 4 และ www.tiscoasset.com หรือ แอปพลิเคชัน TISCO My Funds

ข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์และการคาดหมาย รวมทั้งการแสดงความคิดเห็นทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้ทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดที่ได้รับมาและพิจารณาแล้วเห็นว่า น่าเชื่อถือ แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความถูกต้อง ความสมบูรณ์ แท้จริงของข้อมูลดังกล่าว ความเห็นที่แสดงไว้ในรายงานฉบับนี้ได้มาจากการพิจารณาโดยเหมาะสมและรอบคอบแล้ว และอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้าแต่อย่างใด บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมายทั้งหลายที่ปรากฏ อยู่ในรายงานฉบับนี้เป็นการนำไปใช้โดยผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยงและเป็นดุลยพินิจของผู้ใช้แต่เพียงผู้เดียว