ก้อนอิฐมวลเบา ใช้งานอย่างไร แล้วก็มีส่วนดีส่วนเสียอย่างไรบ้าง ?

[Hanako5]

ก้อนอิฐมวลเบา หรือคอนกรีตมวลเบา (Lightweight Concrete) มีลักษณะเป็นสีเทา มีขนาดมาตรฐาน (กว้าง 20 ซม. ยาว 60 ซม. ครึ้ม 7 – 7.5 ซม.) ใช้สำหรับก่อฝาผนังสร้างอาคารสูงหรือบ้านที่พักอาศัย เป็นอิฐจำพวกที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะว่ามีน้ำหนักเบา เพราะมีฟองอากาศในเนื้อก้อนอิฐจำนวนไม่ใช่น้อย ทำให้อดออมองค์ประกอบ พร้อมด้วยฟองอากาศนี้ยังเป็นฉนวนความร้อนที่ดีทำให้บ้านไม่ร้อนอีกด้วย

การใช้แรงงานก้อนอิฐมวลเบา อิฐมวลเบาเหมาะแก่การนำไปใช้งานเป็นสิ่งของสำหรับในการก่อผนัง สามารถก่อเป็นฝาผนังได้ทุกส่วนของบ้าน เพราะเหตุว่าอิฐมวลเบามีคุณสมบัติในการนำความร้อนต่ำ ก็เลยช่วยทำให้ความร้อนจากภายนอกไม่อาจจะเข้ามาในบ้านหรือภายในห้อง จึงทำให้บ้านมีอากาศที่รู้สึกเย็นสบาย จึงสามารถทำให้ลดการใช้พลังงานรวมทั้งค่าไฟได้มากขึ้น และยังสามารถปกป้องหรือลดเสียงรบกวนจากด้านนอกและก็เสียงรบกวนระหว่างห้องได้

คุณสมบัติเด่นของอิฐมวลเบา มีดังนี้

ทนต่อสภาพการณ์อากาศ และก็รองรับน้ำหนักได้ดิบได้ดี

เป็นฉนวนทางความร้อนรวมทั้งสามารถทนความร้อนได้นาน 2 – 4 ชั่วโมง
มีน้ำหนักเบากว่าก้อนอิฐมอญ 2 – 3 เท่า และก็เบากว่าคอนกรีต 4 – 5 เท่า
กันเสียงและก็ดูดซับได้ดี สามารถกันเสียงได้ดียิ่งไปกว่าอิฐมอญ ช่วยลดทอนความดังของเสียงจากด้านนอกตึกและก็ระหว่างห้องได้
คุณลักษณะด้อยของอิฐมวลเบา มีดังนี้

อิฐมวลเบาสามารถปรับปรุงได้น้อย เนื่องจากก้อนอิฐมวลมีขนาดใหญ่ ถ้าเกิดนำไปปรับใช้ทำอันอื่นที่ไม่ใช่ผนังอาจทำเป็นยาก

อาจมีปัญหาเกี่ยวกับปลวกกินได้ เพราะว่าก้อนอิฐมวลเบามีส่วนประกอบของยิปซัมซึ่งเป็นอาหารของปลวก
ด้วยลักษณะของวัสดุที่มีรูพรุน ทำให้ก้อนอิฐมวลเบาซับน้ำซึ่งส่งผลต่อความชุ่มชื้น ก็เลยไม่นิยมนำไปก่อเป็นผนัง ใช้ในงานส้วมหรือครัว

ถ้าหากต้องเจาะฝาผนังเพื่อจัดตั้งเครื่องไม้เครื่องมือจะต้องใช้พุกที่วางแบบมาเพื่ออิฐมวลเบา เพราะอาจจะเป็นผลให้กำเนิดความเสื่อมโทรมได้ เพราะอิฐมวลเบาฝาผนังบางทีอาจแตกร้าวได้มากกว่าก้อนอิฐมอญ

จะมีความเห็นว่า อิฐมวลเบานับว่าเป็นอิฐที่เหมาะกับสภาวะอากาศในปัจจุบันที่มีอากาศร้อน เพราะเหตุว่าช่วยคุ้มครองปกป้องความร้อนเข้าสู่ข้างในตัวอากาศได้อย่างดีเยี่ยม และก็หากแม้จะมีราคาที่สูงกว่าก้อนอิฐจำพวกอื่น แต่เมื่อเทียบกับจำนวนและช่วงเวลาที่ใช้สำหรับการก่อสร้าง การใช้ก้อนอิฐมวลเบาจะย่นระยะเวลาได้มากกว่า ทำให้งานก่อสร้างมีความรุ่งเรืองและก็เสร็จในระยะเวลาที่กำหนด