กาพ่นสี เครื่องพ่นสีไฟฟ้าตัวช่วยที่ขาดไม่ได้ในงานตกแต่ง

[azhimeblog]

กาพ่นสี เครื่องพ่นสีไฟฟ้า


กาพ่นสี (Spray Guns) และ เครื่องพ่นสีไฟฟ้า (Spray Machines) เป็นเครื่องมือช่างที่ใช้สำหรับการตกแต่งชิ้นงานต่างๆ เพื่อช่วยให้ทำงานสีได้ง่าย สะดวก และรวดเร็วมากกว่าการใช้แปรงทาสี หรือลูกกลิ้งทาสีในการทาสีชิ้นงาน ทำให้คุณได้ชิ้นงานที่ออกมาเรียบเนียนสวยงาม โดยกาพ่นสีนั้นสามารถนำไปใช้ได้อย่างหลากหลาย ทั้งกับงานไม้ งานโลหะ งานพ่นสีรถยนต์ และงานทาสีบ้าน เป็นต้น สามารถแบ่งออกตามลักษณะของการทำงานได้เป็น 3 แบบด้วยกัน ดังนี้

กาพ่นสี หรือกาพ่นสีบน (Gravity-feed Type) เป็นกาพ่นสีที่ติดตั้งถ้วยสีให้อยู่เหนือหัวจ่ายสี ปริมาณส่วนผสมของสีจะไหลเข้าสู่หัวจ่ายโดยอาศัยแรงโน้มถ่วงของโลก และสุญญากาศที่เกิดขึ้นภายในหัวจ่าย ซึ่งกาพ่นสีประเภทนี้จะมีปริมาณการไหลลงของสีที่สม่ำเสมอ เหมาะกับงานที่ใช้สีหรือของเหลวที่มีความหนืดสูง แต่อาจจะไม่เหมาะที่จะใช้งานกับการพ่นสีที่ต้องการพ่นอย่างต่อเนื่องบนบริเวณพื้นที่กว้าง เนื่องจากถ้วยบรรจุสีจะมีขนาดที่ค่อนข้างเล็ก



กาพ่นสี หรือกาพ่นสีล่าง (Suction-feed Type) เป็นกาพ่นสีที่ติดตั้งถ้วยสีให้อยู่ด้านล่างของหัวจ่ายสี ดังนั้นปริมาณของสีที่ถูกพ่นออกไปจะอาศัยแรงดูดสุญญากาศที่เกิดขึ้นในหัวจ่ายสี อีกทั้งยังมีถ้วยบรรจุสีขนาดใหญ่ จึงเหมาะที่จะใช้สำหรับพ่นสีบริเวณที่มีพื้นที่กว้าง



กาพ่นสีแบบอัด หรือเครื่องพ่นสี (Air Compression Type) กาพ่นสีประเภทนี้ถูกออกแบบให้มีถังสี และกาพ่นสีแยกออกจากกัน ในส่วนของสีที่บรรจุอยู่ในถังสีจะถูกอัดด้วยแรงดันลมจากปั๊มลมเพื่อให้จ่ายสีไปยังกาพ่นสี นิยมใช้กับการพ่นสีที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ เพราะสามารถพ่นได้อย่างต่อเนื่อง และใช้ได้ดีกับสีที่มีความหนืดสูง


วิธีเลือกใช้งานกาพ่นสี และเครื่องพ่นสีไฟฟ้าให้เหมาะสม




ขนาดของหัวลม (Air Cap) หรือขนาดรูหัวฉีดสี และฝาครอบหัวฉีด ขนาดของรูหัวฉีดสีมีเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 0.8-3.0 มม. หากเป็นงานที่ต้องการละอองสีเล็กๆ หรือต้องการความละเอียดสูง เช่น การพ่นสีทับหน้า แนะนำให้เลือกรูหัวฉีดขนาด 0.8-1.3 มม. สำหรับงานที่ต้องการความละเอียดปานกลางหรืองานทั่วๆ ไป เช่น การพ่นสีรองพื้น เหมาะที่จะใช้รูหัวฉีดขนาด 1.3-1.8 มม. ส่วนงานที่ต้องพ่นสีความเข้มข้นสูง ก็ควรใช้หัวฉีดขนาดประมาณ 2-2.5 มม. ซึ่งฝาครอบหัวฉีดหรือหัวลมจะเป็นตัวจ่ายอากาศผสมกับสีออกมาให้เป็นละอองสี ถ้ามีรูช่วยเพิ่มอากาศน้อยก็จะได้ละอองสีที่ละเอียดน้อย ถ้ามีรูช่วยเพิ่มอากาศมากก็จะได้ละอองสีที่ละเอียดมาก



ชนิดของสีที่ใช้พ่นชิ้นงาน เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการเลือกกาพ่นสี เพราะคุณจำเป็นต้องดูว่ากาพ่นสีรุ่นนี้เหมาะกับสีชนิดใด เช่น สีน้ำ สีน้ำมัน สีทา สีย้อม สีแต้ม สีเคลือบ แลกเกอร์ สีที่มีความหนืด หรือแม้แต่ตัวทำละลายที่ใช้ผสมสีว่าเป็นแบบไหน เช่น ใช้น้ำเป็นตัวทำละลาย ใช้ตัวทำละลายอินทรีย์ หรือตัวทำละลายที่มีความกัดกร่อนสูง เป็นต้น