• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Ailie662

#3801












โควิดลดกระหน่ำ ที่ดินติดถนนเอเซีย ติดถนนพหลโยธิน  AH1  เนื้อที่ 3-1-40 ไร่ ขาย 5ลบ. ต.ตากออก อ.บ้านตาก  จ.ตาก หน้ากว้างติดถนนเอเซียยาว แบ่งโฉนดขาย 1.5 ลบ./ไร่  

ทำเลยอดเยี่ยม ติดถนนAH1 หลักของไทย สายหลักขึ้นเหนือ ทำธุรกิจค้าขายดี เกร็งกำไรได้ ใกล้ตัวเมืองแหล่งชุมชนน้ำไฟเข้าถึง ผ่านจุดสำคัญมากมาย บรรยากาศวิวดี  สดชื่นอากาศดีน่าอยู่  ใกล้สถานที่ราชการสำคัญ ทำเลที่ตั้งดีหายาก เหมาะแก่การทำธุรกิจต่างๆ สร้างรีสอร์ท บ้านพัก ปั๊มน้ำมัน สนใจโทร

083-7124115
Line id : 0837124115

ปักหมุด
https://maps.app.goo.gl/fnyjh5h4krmYAWVB8

 
#3802


กูเกิล (Google) เอาจริงเอาจังกับการผลิตฮาร์ดแวร์ แทนที่จะรอพึ่งพาบริษัทอื่นให้ผลิตชิ้นส่วนที่ต้องการ ล่าสุดกูเกิลลงมือสร้างระบบชิป SoC (System on a Chip) สำหรับโทรศัพท์พิกเซล (Pixel) ขึ้นเอง ส่งสัญญาณพร้อมรบกับแอปเปิล (Apple) และซัมซุง (Samsung)

ชิปใหม่ของกูเกิลมีชื่อเรียกว่า "เท็นเซอร์" (Tensor) มีกำหนดเปิดตัวในโทรศัพท์ Pixel 6 และ Pixel 6 Pro เพื่อแจ้งเกิดในไตรมาส 3 ปีนี้ เบื้องต้น กูเกิลให้ข้อมูลว่าใช้เวลาหลายปีในการพัฒนา บนเป้าหมายที่ไม่เพียงแต่ทำให้โทรศัพท์ Pixel มีความสามารถมากขึ้น แต่ยังจะทำให้ฟีเจอร์สำหรับปรับเปลี่ยนตามความต้องการของผู้ใช้ สามารถทำได้ยืดหยุ่นมากกว่าเดิม

จุดเด่นของชิปนี้คือความปลอดภัยที่ทรงพลังยิ่งขึ้น เมื่อรวมกับชิป Titan M2 ก็ยิ่งทำให้ Pixel 6 เป็นอุปกรณ์ที่มีความปลอดภัยในระดับฮาร์ดแวร์มากที่สุดเมื่อเทียบกับโทรศัพท์ทุกเครื่องในตลาด ซึ่งจะเป็นข้อได้เปรียบ ที่ทำให้ Pixel แข่งขันกับไอโฟน (iPhone) ได้ดีขึ้น



ริก ออสเตอร์โลห์ (Rick Osterloh) รองประธานอาวุโสฝ่ายอุปกรณ์และบริการของ Google กล่าวกับสำนักข่าวอินไซเดอร์ (Insider) ว่าสิ่งที่กูเกิลสร้างขึ้นคือคอมพิวเตอร์ AI แบบพกพา เนื่องจากข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ เป็นสิ่งสำคัญที่จำกัดความสามารถในการประมวลผลระบบ ดังนั้นชิปนี้จึงสามารถผลักดันให้สมาร์ทโฟนของ Google ดีขึ้น

ผู้บริหารกูเกิล ยอมว่าข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ทำให้บริษัทไม่สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนาฟีเจอร์ด้านปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง

จุดนี้สอดรับกับแนวทางของกูเกิล ที่พยายามขยายวงไปยกระดับการถ่ายภาพและการวิเคราะห์รู้จำคำพูด ที่ผ่านมา กูเกิลมุ่งมั่นที่จะพาคุณสมบัติ AI มาเปล่งประกายบนกล้องของ Pixel 6 รวมถึงการติดปีกให้ทักษะการแปลภาษาเก่งกาจไร้เทียมทานมากขึ้น



สำหรับชิป Tensor อีกความสามารถที่โดดเด่นในการช่วยให้การถ่ายภาพได้คมชัด แม้จะถ่ายภาพวัตถุที่เคลื่อนไหวอยู่ เช่น ภาพเด็กวัยหัดเดินที่กำลังเล่น ขณะเดียวกัน ชิปนี้ทำให้เครื่องสามารถเล่นวิดีโอภาษาฝรั่งเศสซึ่งถูกแปลและมีคำบรรยายเป็นภาษาอังกฤษแบบเรียลไทม์ขณะกำลังเล่นวิดีโอ ทั้งหมดนี้ทำได้ไหลลื่นไม่มีสะดุด

กูเกิลมั่นใจว่าชิปใหม่ Tensor จะทำให้ฟีเจอร์ UI เคลื่อนไหวได้อย่างคล่องตัวในลักษณะที่ "เป็นธรรมชาติอย่างไม่น่าเชื่อ" นำไปสู่การยกเครื่องระบบภาพทั้งหมดของโทรศัพท์ได้

ในภาพรวม ชิปใหม่จะเพิ่มความสามารถหลักตั้งแต่ระบบกล้องที่จะเก่งขึ้น ไปจนถึงการรู้จำเสียงพูด และอื่นๆ อีกมากมาย ตรงนี้กูเกิลแซวในบล็อกโพสต์ว่า ไม่ว่าใครจะพยายามถ่ายภาพครอบครัวโดยที่ลูกน้อยไม่ยอมอยู่นิ่ง หรือใครที่พยายามสื่อสารกับคนรู้จักในภาษาอื่น ทั้งหมดนี้ Pixel จะช่วยได้ และจะมีประโยชน์มากกว่าที่เคย

https:// m.mgronline.com/cyberbiz/detail/9640000075801
#3803


Viu (วิว) เปิดตัวแคมเปญ "Viu พร้อมบวก" มุ่งช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหารทั่วประเทศ ด้วยการผลิตถุงใส่อาหารมอบแก่ผู้ประกอบการ พร้อมแจกโค้ดดูซีรีส์ฟรีกว่า 1,000,000 โค้ด ให้ผู้บริโภคที่สั่งอาหารได้เต็มอิ่มกับซีรีส์เรื่องโปรดในทุกมื้อ ฟรี 5 วันเต็ม

ในช่วงสถานการณ์อันยากลำบากที่กำลังเกิดขึ้นแก่สังคมไทยในขณะนี้ ส่งผลให้หลายภาคส่วนต้องประสบปัญหาในการดำเนินธุรกิจ ท่ามกลางสมรภูมิอันดุเดือดของภาวะเศรษฐกิจที่มีแต่ทรุดตัวลง ในขณะที่เหล่าผู้ประกอบการทั้งขนาดใหญ่ และขนาดเล็กต่างต้องต่อสู้เพื่อนำพาธุรกิจให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้ โดยมีความช่วยเหลือจากภาครัฐ และภาคเอกชนมากมาย

ล่าสุด Viu (วิว) ผู้ให้บริการระดับแนวหน้าด้านวิดีโอสตรีมมิ่งแบบ OTT (Over-the-top) ยักษ์ใหญ่ระดับภูมิภาค ซึ่งดำเนินการโดย PCCW Limited (พีซีซีดับเบิลยู ลิมิเต็ด) ได้จัดตั้งโครงการสนับสนุนเหล่าผู้ประกอบการร้านอาหาร ในแคมเปญ "Viu พร้อมบวก" ที่มุ่งช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหารจากทั่วประเทศ โดยไม่จำกัดรูปแบบของร้านอาหารที่เข้าร่วม ซึ่งหลังประกาศเริ่มแคมเปญก็ได้การตอบรับที่ดีเป็นอย่างมากจากเหล่าผู้ประกอบการ

โดยในเฟสแรกที่ผ่านมามีเหล่าผู้ประกอบการกว่า 500 ร้านค้าจากทั่วกรุงเทพฯ เข้าร่วมแคมเปญ "Viu พร้อมบวก" เป็นที่เรียบร้อย และในขณะนี้ Viu (วิว) ยังเดินหน้ากระจายความช่วยเหลือด้วยการเปิดรับสมัครร้านอาหารจากทั่วประเทศเพิ่มเติม เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกร้านอาหารได้เข้าถึงแคมเปญ "Viu พร้อมบวก" โดยมุ่งหวังที่จะแบ่งเบาความยากลำบากได้อย่างทั่วถึงในทุกพื้นที่ของประเทศไทย

สำหรับแคมเปญ "Viu พร้อมบวก" Viu (วิว) ได้เดินหน้าผลิตถุงสำหรับใส่อาหารเพื่อมอบแก่ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อเป็นการช่วยลดต้นทุน พร้อมแจกโค้ดดูซีรีส์ฟรีกว่า 1,000,000 โค้ดให้ผู้บริโภคที่สั่งอาหารจากร้านดังกล่าวได้เต็มอิ่มกับการรับชมซีรีส์เรื่องโปรดฟรีตลอด 5 วันเต็ม เพื่อเป็นการบวกความสุขให้ทุกมื้ออาหารเต็มไปด้วรอยยิ้ม และก้าวข้ามผ่านสถานการณ์อันยากลำบากนี้ไปด้วยกัน

ด้านผู้ประกอบการร้านอาหาร มัณฑนา วารนิช เจ้าของร้านครัวภูเก็ต กล่าวถึงสถานการณ์ของธุรกิจร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบในช่วงเวลาอันยากลำบากนี้ และความรู้สึกที่ได้เข้าร่วมโครงการ Viu พร้อมบวก ว่า "แน่นอนว่าในสถานการณ์อันยากลำบากนี้เราต้องปรับตัวเยอะมาก ต้องเปลี่ยนจากการขายแบบนั่งรับประทานในร้าน มาเน้นขายแบบดีลิเวอรีเป็นหลัก เพราะพยายามที่จะหารายได้ให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด ซึ่งการที่ Viu (วิว) มีโครงการนี้ขึ้นมา เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะเข้าร่วม เพราะทางแบรนด์ได้สนับสนุนถุงใส่อาหารที่ช่วยลดต้นทุนของเราได้เยอะ ประกอบกับการแจกโค้ดดูซีรีส์ฟรี ที่เราสามารถนำมาสร้างเป็นจุดขายให้แก่ลูกค้าได้ เรียกได้ว่าเป็นโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่สามารถกระจายความสุข และความช่วยเหลือได้อย่างทั่วถึง"


สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2564 โดยสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง https://bit.ly/2V7hq4y
สามารถดาวน์โหลด Viu (วิว) ฟรีทาง https://bit.ly/3dyyR49 ได้ทั้ง App Store, Google Play และสมาร์ททีวี หรือคลิกเว็บไซต์ www.viu.com ก็พร้อมฟินเต็มอิ่มความบันเทิงเอเชีย ดูไวก่อนใคร ซับไทยเป๊ะ เพลย์ต่อเนื่องกันได้เลย

ทั้งนี้ Viu (วิว) คือผู้ให้บริการระดับแนวหน้าด้านวิดีโอสตรีมมิ่งแบบ OTT (Over-the-top) ยักษ์ใหญ่ระดับภูมิภาคที่ดำเนินการโดย PCCW Limited (พีซีซีดับเบิลยู ลิมิเต็ด) ที่ให้บริการใน 16 ประเทศ ทั้งเอเชีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกาใต้ โดยมีจำนวนผู้ใช้งาน 45 ล้านรายต่อเดือน (ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม พ.ศ. 2563)
#3804


เมื่อวันที่ 1 ส.ค.64 นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Nithi Mahanonda  ระบุว่า เปิดไทม์ไลน์ "วัคซีนซิโนฟาร์ม" 10 ล้านโดสนำเข้าไทย และแผนการจัดสรรและกระจายวัคซีน "ซิโนฟาร์ม" ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์

1 สิงหาคม 2564: ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ สรุปแผนการจัดสรรและกระจาย "วัคซีนซิโนฟาร์ม" ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม 2564 พร้อมเปิดไทม์ไลน์วัคซีนซิโนฟาร์ม 10 ล้านโดสให้ประชาชนคนไทย ภายหลังจากวัคซีนซิโนฟาร์ม (SINOPHARM) ล็อตที่ 5 จำนวน 1 ล้านโดสเดินทางมาถึงประเทศไทยวันนี้ (1 สิงหาคม 2564)

ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ หนึ่งใน 5 หน่วยงานที่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าวัคซีนโควิด-19 ตามประกาศศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และได้รับความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรีที่มอบหมายให้ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เป็นตัวแทนของรัฐบาลไทยในการดำเนินการประสานติดต่อและนำเข้าวัคซีน "ซิโนฟาร์ม" จากสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมทั้งติดตามกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดและในการขออนุมัติการขึ้นทะเบียนวัคซีนซิโนฟาร์มจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้ซิโนฟาร์มเป็นวัคซีนโควิด-19 รายการที่ 5 ของประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2564

ทางราชวิทยาลัยได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีทั้งจากกระทรวงสาธารณสุขและกรุงเทพมหานครเพื่อให้ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์สามารถกระจายวัคซีนช่วยเหลือประชาชนให้เข้าถึงและได้รับวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันได้เร็วที่สุด ทั้งนี้ วัคซีนจากบริษัทซิโนฟาร์มที่ใช้ในประเทศไทยผลิตโดยสถาบันชีววัตถุแห่งกรุงปักกิ่ง (BIBP) เป็นวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติจากองค์การอนามัยโลก (WHO) โดยราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้ติดต่อนำเข้ามา จำนวน 10 ล้านโดส ระหว่างเดือนมิถุนายน - สิงหาคม 2564 โดยมีกำหนดถึงประเทศไทย ดังนี้


ไทม์ไลน์วัคซีนซิโนฟาร์ม 10 ล้านโดส

• 20 มิถุนายน 2564 จำนวน 1 ล้านโดส

• 4 กรกฎาคม 2564 จำนวน 1 ล้านโดส

• 18 กรกฎาคม 2564 จำนวน 1 ล้านโดส

• 25 กรกฎาคม 2564 จำนวน 1 ล้านโดส

• 1 สิงหาคม 2564 จำนวน 1 ล้านโดส

• 15 สิงหาคม 2564 จำนวน 1 ล้านโดส

• 22 สิงหาคม 2564 จำนวน 2 ล้านโดส

• 29 สิงหาคม 2564 จำนวน 2 ล้านโดส


แผนการจัดสรร และกระจายวัคซีน "ซิโนฟาร์ม"

โดยพิจารณาทยอยจัดสรรตามลำดับความสำคัญเร่งด่วนตามประเภทการดำเนินธุรกิจที่มีผลต่อการขับเคลื่อนประเทศ ระดับความเสี่ยงของโอกาสในการแพร่เชื้อให้กับสังคม และระดับความเสี่ยงบนพื้นที่ของทำเลที่ตั้งสถานประกอบการและที่พักอาศัย แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย

1) กลุ่มองค์กรนิติบุคคล เดือนมิถุนายน-กรกฎาคม จัดสรรไปแล้วให้กับประชากร จำนวน 2.26 ล้านคน ประมาณ 4.5 ล้านโดส เริ่มกระจายฉีดตั้งแต่ 25 มิถุนายน 2564

สำหรับภาคองค์กรนิติบุคคลที่ยื่นความประสงค์ขอรับการจัดสรรวัคซีนให้กับกลุ่มบุคคลต่างๆ ให้ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งองค์กรเป็นผู้สนับสนุนค่าวัคซีนให้ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้ประกาศจัดสรรให้กับองค์กรนิติบุคคลที่ยื่นขอรับการจัดสรรในระยะที่ 1 เข้ามาทั้งหมดแล้ว โดยทยอยจัดสรรไปทั้งหมด 5 ครั้ง รวมประชากรที่ได้รับจัดสรรวัคซีนไปทั้งหมด จำนวน 2,264,957 คน = 4,529,914 โดส และเริ่มกระจายฉีดในกลุ่มองค์กรนิติบุคคล ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป โดยมีรายละเอียดการจัดสรร ดังนี้

• ครั้งที่ 1 ประกาศจัดสรรเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2564 จำนวน 476,682 คน

• ครั้งที่ 2 ประกาศจัดสรรเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2564 จำนวน 302,618 คน

• ครั้งที่ 3 ประกาศจัดสรรเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2564 จำนวน 338,419 คน

• ครั้งที่ 4 ประกาศจัดสรรเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2564 จำนวน 993,330 คน

• ครั้งที่ 5 ประกาศจัดสรรเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2564 จำนวน 153,908 คน

2) กลุ่มองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เดือนกรกฎาคมได้จัดสรรไปแล้วให้กับประชากร จำนวน 1.9 ล้านคน ประมาณ 3.9 ล้านโดส เริ่มกระจายฉีดตั้งแต่ 28 กรกฎาคม 2564

สำหรับภาคองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานราชการ ที่ยื่นความประสงค์ขอรับการจัดสรรวัคซีนให้กับกลุ่มประชากรในพื้นที่ให้ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่ง อปท.เป็นผู้สนับสนุนค่าวัคซีนให้ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้ทยอยประกาศจัดสรรไปแล้ว จำนวน 4 ครั้ง รวมประชากรที่ได้รับจัดสรรวัคซีนทั้งหมด จำนวน 1,965,944 คน = 3,931,888 โดส และเริ่มกระจายฉีดประชาชนในกลุ่ม อปท. ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป โดยมีรายละเอียดการจัดสรร ดังนี้

• ครั้งที่ 1 ประกาศจัดสรรเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2564 จำนวน 392,789 คน

• ครั้งที่ 2 ประกาศจัดสรรเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2564 จำนวน 148,082 คน

• ครั้งที่ 3 ประกาศจัดสรรเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2564 จำนวน 145,772 คน

• ครั้งที่ 4 ประกาศจัดสรรเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 จำนวน 1,279,301 คน


3) กลุ่มบุคคลธรรมดา เดือนกรกฎาคมได้ลงทะเบียนเปิดจองและจัดสรรไปแล้ว 1 ครั้ง จำนวน 57,034 คน = 114,068 โดส เริ่มกระจายฉีดในกลุ่มบุคคลธรรมดา ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม 2564

4) กลุ่มประชาชนเปราะบางและผู้ด้อยโอกาส จำนวน 351,047 โดส = 175,523 คน

สำหรับวัคซีนที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้จัดสรรให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบางและผู้ด้อยโอกาส ส่วนหนึ่งมาจากองค์กรที่ได้รับการจัดสรรวัคซีนซิโนฟาร์มระยะที่ 1 ร่วมช่วยเหลือสังคมจัดสรรวัคซีนบริจาคให้อย่างน้อย 10% ของจำนวนวัคซีนซิโนฟาร์มที่ได้รับการจัดสรร และราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ร่วมสมทบ "ครึ่งโดส" ต่อ 1 สิทธิ์การจองวัคซีนซิโนฟาร์มในรอบบุคคลธรรมดา

ทั้งนี้ ได้กำหนดเป้าหมายสำหรับผู้ที่จะได้รับการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มบริจาคไว้ 5 กลุ่ม โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ได้แก่

• ผู้พิการ

• ผู้ด้อยโอกาส/ชุมชนแออัด

• ผู้สูงอายุ/ผู้ป่วยติดเตียง/ผู้ป่วยเรื้อรัง

• พระ/นักบวช

• กลุ่มอาชีพต่างๆที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบนัดของวัคซีนหลักได้และมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือแพร่เชื้อ

ทั้งนี้ โดยสรุป ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้จัดสรรและกระจายวัคซีนซิโนฟาร์มให้กลุ่มต่างๆไปแล้ว จำนวน 8.9 ล้านโดส ยังมีโควต้าวัคซีนซิโนฟาร์มที่รอการจัดสรรอีกจำนวนประมาณ 1.1 ล้านโดส โดยในเดือนสิงหาคมนี้ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จะเปิดลงทะเบียนจองวัคซีนสำหรับบุคคลธรรมดาในรอบที่ 2 และเปิดลงทะเบียนการขอรับการจัดสรรวัคซีนซิโนฟาร์มสำหรับองค์กรนิติบุคคล ระยะที่ 2 โดยมีข้อกำหนดให้สำหรับองค์กรที่มีการยื่นขอรับจัดสรรให้กับพนักงานตั้งแต่ 100-2,000 คน เพื่อทยอยกระจายวัคซีนที่มีในโควต้าให้กับประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ที่มีความต้องการเข้าถึงวัคซีนอย่างเร่งด่วนต่อไป พร้อมทั้งเตรียมแผนขยายอายุการให้วัคซีนซิโนฟาร์มในกลุ่มเด็กและวัยรุ่นอายุ 3-17 ปี หลังจากรัฐบาลจีนได้อนุมัติรับรองการใช้วัคซีนซิโนฟาร์มเพื่อการใช้แบบฉุกเฉินในกลุ่มคนอายุ 3-17 ปี ซึ่งคาดว่าจะมีความต้องการเพิ่มขึ้นจนกว่าวัคซีนหลักและวัคซีนทางเลือกในประเทศไทย จะมีเข้ามาเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 4 ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ก็จะค่อยๆ ลดบทบาทในการนำเข้าและจัดสรรปริมาณวัคซีนตัวเลือกซิโนฟาร์มนี้ลง

ข้อมูล ณ วันที่ 1 สิงหาคม 2564

นิธิ มหานนท์ 

เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และ 

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ 
#3806


สำนักข่าววีโอเอ รายงานว่า "นายมนัสวี ศรีโสดาพล เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน" เผยเบื้องหลังการได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพิ่มเติมจากจำนวน 1.5 ล้านโดส ซึ่งเป็นข่าวดีที่รับแจ้งข่าวดีจาก วุฒิสมาชิกเชื้อสายไทย แทมมี ดักเวิร์ธ มาก่อนหน้านี้ ในเวลาไล่เลี่ยกับการได้รับแจ้งจากทำเนียบขาว

นายมนัสวี เปิดเผยกับ 'วีโอเอ ไทย' ว่า ทางสถานทูตฯ ได้รับข่าวดีจากทางทำเนียบขาวโดยตรงว่า สหรัฐจะให้บริจาควัคซีนในไทยเดิมทีที่ 1.5 ล้านโดส หลังจากนั้น พอเขาประกาศเราก็เริ่มหารือเพื่อที่จะลำเลียงวัคซีนเหล่านั้นไปเมืองไทยอีกสักพักหนึ่ง ส.ว. แทมมีก็โทรมาหาผม ท่านก็แจ้งข่าวว่า ในนามของประธานาธิบดีสหรัฐ

"ทางสหรัฐมีความห่วงใยกับประชาชนคนไทย ถือว่าเป็นมิตรเก่าแท้ของสหรัฐ เพราะฉะนั้นเขาก็จะขอเพิ่มวัคซีนให้เราเองอีกต่างหากอีก 1 ล้าน ก็โดยรวมแล้วก็เป็น 2.5 ล้านล็อตแรก 1.5 ล้านก็ไปถึงเมืองไทยแล้วสัปดาห์นี้ แล้วก็หาล็อตที่ 2 เราก็กำลังประสานกับทางทำเนียบขาวอยู่เพื่อให้เขาเร่งรัดให้รีบส่งให้เมืองไทย" เอกอัครราชทูตมนัสวี ระบุว่า ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาได้ทำงานอย่างหนัก ในทุกช่องทางที่เป็นไปได้ในการประสานกับหน่วยงาน องค์กรต่าง ๆ ในสหรัฐ เพื่อเจรจาเข้าถึงวัคซีนป้องกันโควิด-19 ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของทุกประเทศทั่วโลก

นายมนัสวี กล่าวอีกว่า ในช่วงที่ผ่านมา เราเกือบจะเรียกว่าทุกวัน ประสานกับทั้งฝ่ายบริษัทโดยตรง ทั้งฝ่ายรัฐบาลและทำเนียบขาวกับกระทรวงต่างประเทศ และกับ ส.ส. และ ส.ว ของสหรัฐ เพื่อผลักดันให้เขา ให้ประเทศต่างๆ รวมทั้งไทยเข้าถึงวัคซีนเหล่านี้ได้เพราะมันจะเป็นคำตอบในหลายเรื่อง ทั้งในเรื่องของสาธารณสุขและก็ในเรื่องของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่มันกระทบทั่วโลก เราก็พยายามเต็มที่นะ และที่สำคัญก็คือเราก็สนับสนุนให้ชุมชนไทยก็พยายามสื่อกับทางนักการเมืองของสหรัฐ ให้ช่วยนึกถึงประเทศไทย

"วิธีที่จะเข้าถึงฝ่ายรัฐบาลสหรัฐ เนี่ยมันก็ไม่ใช่แค่แค่ข้าราชการด้วยกันเองมันก็ต้องไปถึงกลุ่มต่างๆ ภาคเอกชน เข้าถึงภาคสถาบันวิชาการซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการส่งข้อมูลให้กับทางสภา หรือให้กับทางรัฐบาล เราก็เห็นว่าการที่ผมไปพบกับฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายรัฐสภาไม่เพียงพอ เราต้องพยายามหาแนวร่วมจากภาคส่วนต่างๆ ทั้งของไทยกับของสหรัฐ ที่จะช่วยโน้มน้าวรัฐบาลในการในการเดินหน้าความร่วมมือระหว่างไทยกับสหรัฐ" นายมนัสวีเล่า

ขณะเดียวกัน สถานทูตก็วิงวอนทางรัฐบาลสหรัฐ ให้ช่วยเร่งส่งวัคซีนที่เราขอซื้อ ให้มันเร็วขึ้น ให้มันทันกับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่มันเกิดขึ้นในตอนนี้ ซึ่งแล้วเราก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้นเราก็ยังอาศัยเครือข่ายเพื่อนประเทศไทย (Friends of Thailand) ตัวแทนชุมชนไทย บุคคลที่เรารู้จักชาวสหรัฐ ที่เรารู้จักที่เขามีเส้นสายต่างๆ ให้เขาช่วยรณรงค์ให้ประเทศไทยอีกรอบหนึ่ง

เราก็ต้องชมพวกบริษัทอเมริกาที่อยู่ในเมืองไทยเพราะเขาก็มีความเป็นห่วงต่อธุรกิจของเขาด้วย ต่อคนงานของเขาด้วยก็เราก็ใช้ทุกรูปแบบ ที่ผ่านมาก็ถือว่าประสบความสำเร็จได้ในระดับหนึ่งตอนนี้ก็เป็นเรื่องของการเข้าถึงวัคซีนที่เราลงนามสัญญาสั่งซื้อว่าถ้าเราได้เร็วขึ้นช่วยบรรเทาบรรเทาสถานการณ์ได้" นายมนัสวี กล่าว

ก่อนหน้านี้ทางทูตอาเซียนกับทำเนียบขาวก็มีการปฏิสัมพันธ์กันเกือบจะทุก 2 สัปดาห์ 3 สัปดาห์ต่อเดือนก็มีความใกล้ชิดผ่าน แต่นี่ผ่านวงของทูตอาเซียน 10 ประเทศเราก็ตอกย้ำเรื่องการเข้าถึงและซีนของเขาเขาก็บอกว่าเนี่ยเมื่อการผลิตเริ่มเพิ่มขึ้นเนี่ยเขาก็จะหาทางเพิ่มความช่วยเหลือทางด้านวัคซีนให้กับโลกอีกอีกรอบนึงนะ เพราะฉะนั้นขอให้ใจเย็นๆ แล้วเขาก็จะประกาศออกมาเป็นระยะๆ"

นอกจากนี้ทางสถานเอกอัครราชทูตไทย มองไปถึงความร่วมมือในขั้นต่อไปที่จะพัฒนาและเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างหน่วยงานหรือองค์กรด้านการวิจัยของไทย กับ บริษัทเอกชนในสหรัฐ ในการตั้งฐานการผลิตวัคซีนหรือเวชภัณฑ์เกี่ยวกับโรคโควิด-19 ในประเทศไทย

"เราได้ติดต่อกับทุกบริษัทวัคซีนของสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการขอซื้อ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการร่วมกันวิจัยและผลิตวัคซีน ซึ่งก็เดินหน้าไปต่อไป ตอนนี้แล้วก็พยายามจับเชื่อมโยง องค์การ หรือสถาบันหรือบริษัทต่างๆ ที่มีความชำนาญ ที่จะสามารถมาช่วยเป็นพันธมิตรในการผลิตวัคซีนในประเทศไทยแล้วก็ทางกรุงเทพฯ เองก็ได้มีการติดต่อโดยตรงกับบริษัทเหล่านี้ที่มีตัวแทนอยู่ในเมืองเมืองไทย

นายมนัสวี กล่าวในตอนท้ายว่า สถานทูตฯ มีโอกาสในสถาบันต่างๆ ที่มีมาตรฐานสูง และมีผลงานที่เด่นชัดแล้ว ประสบการณ์จากในอดีตของเราที่ร่วมผลิตยารักษามาลาเรีย ซึ่งทางฝ่ายสหรัฐแม้กระทั่ง ไมเคิล จอร์ช ดีซอมบรี อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐ ประจำประเทศไทย ก็ตระหนักว่าประเทศไทยเรามีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดมากกับทางสหรัฐ หรือทางศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐเองก็มีสำนักงานอยู่ที่ที่เมืองไทยเหมือนกัน

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/952362
#3807


เป็นระยะเวลา 16 เดือนแล้ว ที่วิกฤติโควิด-19 ยังอยู่กับคนทั้งโลก รวมถึงประเทศไทย และสร้างความเสียหายต่อสุขภาพ ประชากรกว่า 198 ล้านคนต้องติดเชื้อไวรัส และกว่า 4.2 ล้านคนต้องเสียชีวิต

ส่วนประเทศไทย ผู้ติดเชื้อล่าสุด ณ วันที่ 1 สิงหาคม ยอดพุ่งทยานแตะ 18,000 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 133 ราย จนรัฐต้องประกาศขยายพื้นที่สีแดงเข้มเพิ่ม 16 จังหวัด เป็น 29 จังหวัด พร้อมยืดระยะเวลา "ล็อกดาวน์" ออกไปอีก 14 วัน เพื่อบริหารจัดการการแพร่ระบาดของไวรัส 

ความสูญเสียครั้งนี้ไม่จำกัดวงแค่สุขภาพ แต่ทำลายล้าง "เศรษฐกิจ" หรือจีดีพีของทั้งโลกและไทยกลายเป็นบาดแผลฉกรรจ์ ซึ่งความหวังเดียวที่ทุกฝ่ายเห็นพ้องถึงการกู้ชีพจรเศรษฐกิจได้ ต้องแก้ที่ต้นตอ นั่นคือการ "ฉีดวัคซีน" โดยเร็วและทั่วถึง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ เมื่อคนแข็งแรง ย่อมมีพลังไปพลิกฟื้นเรื่องปากท้องได้อีกครั้ง 

ประเทศไทยมี "เครื่องยนต์" สำคัญที่ขับเคลื่อนการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ จากอุตสาหกรรมหลายเซ็กเตอร์ แต่หนึ่ง "ฮีโร่" ต้องมี "อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว" อยู่ในทำเนียบ เพราะไม่เพียงดึงดูดนักเดินทางจากทั่วโลกมาเยือน ยังสร้างรายได้มหาศาล โดยปี 2562 ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวเยือนไทยร่วม 40 ล้านคน ทำเงินให้ประเทศมูลค่าราว 3 ล้านล้านบาท หรือเกือบ 20% ของจีดีพี 

ทว่า นับต้ังแต่วินาทีที่โรคระบาดลามโลก ได้ "ชัตดาวน์" เศรษฐกิจทุกประเทศ และ "ดับเครื่องยนต์" เซ็กเตอร์ "การท่องเที่ยว" ให้จอดสนิท ทั้งห่วงโซ่ธุรกิจเสียหายสาหัส โรงแรมปิดให้บริการ สายการบินต้องหยุดบิน ทำให้ขาด "รายรับ" แต่ต้อง "แบกภาระรายจ่าย" รอบด้านทำให้ผู้ประกอบการต้อง "ขาดทุน" 

ส่วน "แรงงาน" ในภาคการท่องเที่ยวนับ "ล้านคน" ต้องตกงาน ว่างงาน หยุดงานโดยไม่ได้รับเงินเดือน ฯ ท่ามกลางสถานการณ์เลวร้าย เชื่อว่าไม่มีใครปล่อยให้วิกฤติครั้งนี้ผ่านไปอย่างไร้ค่า ดั่งที่อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร "เซอร์วินสตัน เชอร์ชิล" เคยทิ้งวรรคทองให้โลกจำ "Never let a good crisis go to waste."  

"เนชั่น ทีวี ช่อง 22" จัดฟอรั่มออนไลน์ หยิบหัวข้อ "ไทยพร้อม...เปิดประเทศ ฟื้นท่องเที่ยว" เชิญตัวแทนภาครัฐ เอกชน ภาคการท่องเที่ยวมาช่วยระดมสมองเพื่อพลิกฟื้นท่องเที่ยวระยะสั้น และปลดล็อกกับดักดีใจกับ "ตัวเลข" นักท่องเที่ยวปีละหลายสิบล้าน สู่การแสวงหาโอกาส ตลาด นักเดินทางกลุ่มใหม่หลังโควิด-19 คลี่คลาย

++กล้าปลดล็อกอุปสรรค

แก้ "คอขวด" ท่องเที่ยว

วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ไทยควรใช้ห้วงเวลาที่โรคโควิดระบาดซ่อมบ้านหรือปรับปรุงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้ดี ไม่ใช่แค่จังหวัดที่มีเศรษฐกิจอิงการท่องเที่ยวหรือเมืองหลัก แต่ต้องขยายสู่เมืองรองด้วย ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงทางเดิน ชายหาด ฯ  

 นอกจากนี้ ท่ามกลางการบริหารจัดการไวรัส มีการกระจายฉีดวัคซีน จึงเห็นว่าการเปิดเผยข้อมูลด้านสาธารณสุขต้องกระจ่างแจ้งเพื่อสร้างความสบายใจให้กับทุกฝ่าย เพราะนาทีนี้ วัคซีนเป็นทรัพยากรหายาก และเงินงบประมาณที่นำไปใช้จ่ายมีอยู่จำกัด 

ขณะเดียวถึงเวลาที่ทุกฝ่ายต้องมี "ความกล้า" ในการแก้ไขกฏระเบียบที่เป็น "คอขวด" กติกาที่เป็นอุปสรรค สร้างความไม่สะดวก ช่วยลดภาระให้กับประชาชน ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งตอนนี้ใช้ชีวิตยากลำบากอยู่แล้ว

"ใช้วิกฤติให้เกิดโอกาสใหม่ ต้องกล้าผ่าตัด รื้อกฎระเบียบ ใช้ปากกาแก้ไขกฎกระทรวง ค่าธรรมเนียมต่างๆ ตอนนี้มีประชุมเยอะ ก็ประชุมออนไลน์ซะ"   

ส่วนการปั๊มชีพจรผู้ประกอบการท่องเที่ยวระยะสั้น รัฐควรพิจารณากระบวนการให้สินเชื่อของสถาบันการเงินต่างๆ จากปีก่อนพูดไม่ถนัด เพราะยังไม่เห็นผลประกอบการธนาคารพาณิชย์ที่ยังทำ "กำไรมาก" 

"ตอนนี้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวกำลังอ่อนแอ หลังจมน้ำมานาน แต่การพิจารณาให้สินเชื่อสามารถช่วยคนที่กำลังขึ้นจากน้ำ และดึงผู้ประกอบการในห่วงโซ่หรือซัพพลายเชนให้พ้นน้ำได้ทั้งระบบ"  


++4D คัมภีร์ดึงดูดนักเดินทาง

ศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ฉายภาพธุรกิจท่องเที่ยวของไทยที่ผ่านมา ผู้ประกอบการมีความสุขกับตัวเลขนักท่องเที่ยวร่วม 40 ล้านคนต่อปี แต่โลกภายใต้โควิด ยากจะเห็นจำนวนคนมากมายเดินทางเช่นเดิม เพราะผ่านพ้นครึ่งปีแรก นักท่องเที่ยวมาไทยกว่า 34,000 คนเท่านั้น หลังเปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ อ้าแขนรับนักเดินทางไปเกือบครึ่งหนึ่ง 


นอกจากนี้ โลกวิถีปกติใหม่(New Normal) แผนการเดินทางของนักท่องเที่ยวไม่เหมือนเดิม เพราะการจองทริปเกิดขึ้นในเวลาอันสั้น ไม่เตรียมการนานเหมือนในอดีต เพราะมีเงื่อนไขสถานการณ์โรคระบาดของแต่ละประเทศให้ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ตัวเลขผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิต มีผลต่อตารางการท่องเที่ยวทั้งสิ้น 

ท่ามกลางตัวแปรที่หลากหลาย แต่ภารกิจของททท. คือต้องผลักดันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้เติบโต จึงผ่อนเกียร์ในการขับเคลื่อนเครื่องยนต์การท่องเที่ยวไม่ได้ มุ่งผนึกกับสำนักงานทั้ง 29 ประเทศ ดึงนักเดินทางให้กลับมาเยือนไทย สื่อสารให้เข้าใจไทยมีภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ พัก อาศัย เที่ยวในเกาะได้ หากอยู่ครบตามเงื่อนไข ไร้ความเสี่ยงโรคระบาด อาจได้ขยายพื้นที่เที่ยวยังจุดอื่นๆได้ขึ้นภายใต้สถานการณ์และการควบคุมโรคระบาด  

ขณะที่การทำตลาดจะยึดสูตรเดิมไม่ได้ เพราะพฤติกรรมนักท่องเที่ยวเปลี่ยน จึงต้องปรับตัวเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย คัมภีร์ 4D ลุยตลาด ได้แก่ Demand ผู้ประกอบการต้องฟังความต้องการของนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย(Stakeholders)ที่ทำงานร่วมกัน อย่างยุคนี้มาเที่ยวโรงแรม ที่พักต่างๆต้องปลอดภัย เมื่อมาต้องตรวจเชื้อโควิด-19 ทำให้กินเวลานานขึ้น มีผลต่อเวลาเช็คอิน เช็คเอาท์ จึงต้องปรับให้เหมาะสม ไม่ยึดกฏเหล็กนับ 24 ชั่วโมง เช่น หากมาเช็คอิน 08.00 น. แล้วต้องเช็คเอาท์ เวลาใกล้เคียงกัน แขกเข้าพักต้องตื่นเช้าเพื่อออกจากโรงแรม อดมื้อเช้า เหล่านี้ต้องยืดหยุ่นได้ อย่าคำนึงถึงแค่ผลทางธุรกิจ

"กลยุทธ์เดิมอาจพัฒนาสินค้าดีขึ้นห้างขาย ประเทศไทยสวยหล่อเลือกได้ นักท่องเที่ยวมาเยือน 40 ล้านคน Enjoy มานาน แต่ยุคนี้ต้อง Demand Driven ทำตลาดต้องฟังเสียงลูกค้า ตอนนี้นักท่องเที่ยวพาครอบครัว คนรักมาเที่ยวจะมองหาสถานที่เที่ยวแล้วมั่นใจ ปลอดภัย"

Data Driven ข้อมูลขับเคลื่อนธุรกิจ ทำตลาดต้องรู้สถานการณ์แต่ละประเทศมีเงื่อนไขเกี่ยวกับโรคโควิด-19 อย่างไร ไทยอยู่ในโซนสีไหนของแต่ละประเทศ เพราะมีผลต่อการพัก กักตัวของนักท่องเที่ยวเมื่อกลับประเทศเหล่านั้น Digital โรคระบาดเป็นปัจจัยเร่งให้ดิจิทัลทรงพลังมากขึ้นและเปลี่ยนทุกสิ่งทั้งการติดต่อกัน อีเวนท์แบบกายภาพหรือ Physical ลดลง หากนักท่องเที่ยวไม่ต้องการใช้จ่ายเงินสด โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ต้องมีเทคโนโลยี บริการอิเล็กทรอนิกส์รองรับ และควรใช้เวลานี้ปรับตัวให้ทันการเปลี่ยนแปลง เพราะยังมีเวลาก่อนนักเดินทางกลับมาเยือนไทยอีกครั้ง

  Domestic กลับมาพึ่งการตลาดในประเทศ เมื่อคนไทยหยุดเชื้อเพพื่อชาติเป็นเวลานาน หากนโยบายเปิดประเทศ สถานการณ์โควิดคลี่คลาย การกระตุ้นให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวทั่วไทย เป็นกลไกฟื้นเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้ "จีน" เป็นกรณีศึกษาน่าสนใจ เมื่อรัฐยังไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศ ประชากรจำนวนมากเดินทางเที่ยวในประเทศทำสถิติเท่ากับปี 2562 การพักที่จุดหมายปลายทางต่างๆนานขึ้น เช่น ไปมาเก๊า 5 วัน จากปกติ 1-2 วันเท่านั้น 

++ เที่ยวเชิงสุขภาพ 

New S-Curve เติบโต   

อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย อดีตเคยมีนักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพจากยุโรป สหรัฐฯ เข้ามาพักผ่อนเป็นเวลาหลายวัน กระทั่ง "มังกรผงาด" จีนยุคใหม่ต่างพากันตบเท้าออกนอกประเทศเพื่อชมโลกกว้าง ไม่เพียงเท่านั้น ยุคโลกไร้พรมแดน ทำให้มีนักท่องเที่ยวอิสระ(FIT)ทั่วทุกมุมโลกออกเดินทางมากขึ้น ทำให้กลุ่มเป้าหมายของแต่ละตลาดเปลี่ยน รวมถึงไทยที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจีนหลั่งไหลมามหาศาล 

ทว่า จากนี้ไปตัวเลข ไม่ใช่เป้าหมายสำคัญสุดอีกต่อไป เพราะผู้ประกอบการตีโจทย์ใหม่ ป้องกันความเสี่ยงจากตลาดเดียว และขยายตลาดเพิ่มขุมทรัพย์รายได้ ซึ่งหลายส่วนเห็นพ้องว่าหลังโรคโควิดระบาด การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) รวมถึง การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์(Medical Tourism) จะมีบทบาทยิ่งขึ้น 

กิตติศักดิ์ ปัทมะเสวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจมนทาระ ฮอสพิตาลิตี้ กรุ๊ป ผู้บริหาร ตรีสรา รีสอร์ต ภูเก็ต หยิบข้อมูลย้อนหลังปี 2560 การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพทั่วโลกมีมูลค่าถึง 6.4 แสนล้านดอลลาร์ ขนาดใหญ่กว่าจีดีพีไทยมาก และมีอัตราการเติบโตราว 7% ขยายตัวเร็วกว่าเศรษฐกิจหลายประเทศด้วยซ้ำ 

ทั้งนี้ หากธุรกิจท่องเที่ยว โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ตที่พึ่งพาชาวต่างชาติจำนวนมาก โดยเฉพาะจีน รัสเซีย ซึ่งยังไม่กลับมาในเร็วๆนี้ ทำให้ต้องปรับตัวหาตลาดใหม่ เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาวให้ได้

นอกจากนี้ การติดตามสถานการณ์โรคระบาด และศึกษาข้อมูลต่างๆ ทำให้กรณีที่น่าสนใจ อย่างสหรัฐฯ มีผู้ป่วยนับล้าน หากไม่มีโรคเรื้อรังอัตราการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล 14% หากมีโรคเรื้อรัง อัตราจะเพิ่มเป็น 45% หรือราว 3 เท่าตัว และมีผลต่อการเสียชีวิตจาก 5% เป็น 20% หรือเพิ่ม 4 เท่าตัว ผลกระทบไม่ได้เกิดกับร่างกายเท่านั้น แต่มีผลต่อสภาพจิตใจของคนในครอบครัวด้วย 

ขณะที่พฤติกรรมการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพยังสูง 2-4 เท่าตัว และใช้เวลาทำกิจกรรม พักผ่อนยาวนานเมื่อเทียบกับนักท่องเที่ยวทั่วไป ส่วนการเดินทางยังไปพร้อมครอบครัว พ่อแม่ ลูกฯ 

"โควิดทำให้คนตระหนักเรื่องสุขภาพ และกระตุ้นตลาดความต้องการตลาดสุขภาพทั่วโลก wellness tourism จึงเป็นโอกาสในวิกฤติ" 

ทั้งนี้ บริษัทจึงพัฒนาโครงการ "ตรีวนันดา" บนพื้นที่ 600ไร่ มีโซนที่พักอาศัย และรีสอร์ท รองรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพครอบคลุมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ โดยจุดเด่นโครงการไม่เพียงรองรับนักท่องเที่ยว แต่ยังตอบโจทย์การลงทุนด้วย เพื่อให้ลูกค้าที่ลงทุนสามารถปล่อยเช่าได้ผลตอบแทน ซึ่งคาดว่าจะช่วยดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศให้กลับเข้ามาลงทุนส่งเสริมเครื่องยนต์เศรษฐกิจภูเก็ตและประเทศต่อไป

"ระยะยาว Wellness Tourism ตอบโจทย์การผลักดันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยให้เติบโตในอนาคต เพราะคนทัวโลกต้องการมีสุขภาพดี ประเทศไทยมีทรัพยากร วัฒนธรรม บุคลากรตอบโจทย์" 

 ศิริญา เทพเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) เห็นพ้องว่า การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ถือเป็นปัจจัยสร้างการเติบโตใหม่หรือ New S-Curve ของภาคท่องเที่ยว เพราะโควิด-19 ทำให้ผู้คนต้องรักษาชีวิต รักสุขภาพ หันมาสร้างภูมิป้องกันโรคต่างๆมากขึ้น 


หากมองดูประเทศไทย มีจุดแข็งมากมายที่ตอบโจทย์ด้านสุขภาพ ทั้งมีทรัพยากรสมุนไพร การปลดล็อกกัญชาเพื่อทางการแพทย์ และเชิงพาณิชย์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ บริษัทนำไปต่อยอดในโครงการมายโอโซน เพื่อผลักดันให้เศรษฐกิจชุมชนเติบโต ยกระดับเป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางเหมือนการไปดื่มไวน์ณ เมืองต่างๆในประเทศฝรั่งเศส 

"โควิดทำให้คนโหยหามากสุดคือสุขภาพ เพราะมีเงินก็ตาย ขณะที่การส่งเสริมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เมดิคัล ฮับต่างๆ ไม่ยาก เพราะไทยมีจุดแข็งอยู่แล้ว หากทำได้เชื่อว่าเศรษฐกิจจะฟื้นกลับมาเร็ว"

พัลลภ แซ่จิว ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่จะยั่งยืน ต้องหันพึ่งพาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และไม่แค่การรักษาพยาบาล แต่มองถึงการเป็นแหล่ง "ดิจิทัล ดีท็อกซ์" ใช้พื้นที่อับสัญญาณโทรศัพท์ พัฒนารีสอร์ท เพื่อให้นักเดินทางมาปรับคุณภาพชีวิต กลับมาตั้งสติมากขึ้น 

นอกจากนี้ จะยกระดับการท่องเที่ยวเชิงอาหาร Agro Gastronomy เชื่อมโยงการเกษตรกับอาหารแบบครบวงจร มีลายแทงร้านเด็ดดี ปราศจากสารเคมี ดึงนักเดินทางให้มาเที่ยวแล้วได้เรียนรู้ศาสตร์การทำอาหารที่ดีต่อสุขภาพติดตัวกลับไป เป็นต้น  

ภูเก็ต จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวสำคัญของไทย แต่ละปีโกยนักเดินทางจำนวนมาก เศรษฐกิจท้องถิ่น 95% พึ่งพาการท่องเที่ยว แต่โควิดทำให้ต้องคิดใหม่ ภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต บอกว่า ระยะยาวการฟื้นเศรษฐกิจภูเก็ต ต้องไม่ยึดติดกับท่องเที่ยว ต้องสร้างเครื่องยนต์ใหม่ เช่น การท่องเที่ยวเชิงกีฬา การศึกษา สมาร์ทซิตี้ฯ เพื่อกระจายความเสี่ยง แต่ยอมรับว่าจะก้าวไปสู่จุดดังกล่าว เป็นความท้าทายอย่างมาก เพราะต้องใช้งบประมาณจำนวนไม่น้อย พัฒนาระบบขนส่ง ดูแลการท่องเที่ยว และสิ่งแวดล้อมให้ดี

"เพื่อไม่ต้องพึ่งพางบประมาณภาครัฐ  ควรหานวัตกรรมทางการเงินเพื่อให้ภูเก็ตเดินหน้าต่อได้ อย่างไรก็ตาม ก่อนมองระยะยาว ต้องเอาตัวรอดปัจจุบันก่อน หากติดหล่มการจัดการโรคระบาด อนาคตคงเป็นแค่ฝัน"
#3808
ป้ายไฟวิ่ง LED เปลี่ยนข้อความผ่านมือถือ ใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอก ทนแดด ทนฝน

ป้ายไฟวิ่งLED เปลี่ยนข้อความผ่านappมือถือ(เชื่อมต่อทางwi-fi) หรือส่งผ่านระบบLAN  ขนาดป้าย 105x25cm ใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอก ทนแดด ทนฝน มีให้เลือก 4สี แดง,เขียว,น้ำเงิน ราคา 2,900บาท และFull colors  ราคา4,200 บาท ใส่คำ,ข้อความ,วันที่,เวลา,รูปภาพต่างๆได้ ป้ายติดตั้งง่าย โครงสร้างแข็งแรงทนทาน

ทางร้านลงคำให้ฟรีในครั้งแรกและสอนวิธีการใช้งานให้ลูกค้าสามารถลงข้อมูลได้ด้วยตัวเอง แถมขายึดป้ายฟรี

สนใจติดต่อ 0945102033
Line :@gentech
หน้าร้านเซียร์รังสิต ชั้น 1


#3809



ครีมกันแดดเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่ว่าจะแดดแรงแค่ไหนหรือไม่มีแดดเลยก็ควรต้องทาเพื่อป้องกันไม่ให้ผิว หน้าโดนทำร้ายจากแสงและยังช่วยปกป้องผิวจากสัญญาณทั่วไป เช่น ผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ ริ้ว รอย ดังนั้นขั้นตอนการทาครีมกันแดดไม่อาจละเลยได้ ซึ่งครีมกันแดดนั้นไม่เหมือนกับผลิตภัณฑ์เสริมความงาม อื่น ๆ เช่น มอยส์เจอไรเซอร์ หรือ เซรั่ม ที่สามารถซึมเข้าสู่ผิวภายในไม่กี่วินาที หลายคนมีปัญหาทาครีมกันแดดทุกวันแต่ทำไมผิวหน้าแอบไหม้ นั้นแปลว่าคุณกำลังทาครีมกันแดดผิดวิธี

ถึงครีมบำรุงจะมีส่วนผสมของเอสพีเอฟ แต่ก็อย่าลืมที่จะทาครีมกันแดด ปัจจุบันแม้มีผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหรือเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของเอสพีเอฟมากมาย แต่ก็ให้ผลลัพธ์ที่ไม่ดีเท่ากับครีมกันแดด ถ้าสาว ๆ เห็นผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่มีส่วนผสมของเอสพีเอฟก็อย่าชะล่าใจให้นำมาใช้ควบคู่กับครีมกันแดดจะดีที่สุด โดยเกลี่ยครีมกันแดดให้ทั่วหน้าแล้วรอให้ซึมเข้าสู่ผิว การทาครีมกันแดดให้ทั่วหน้าเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความมั่นใจว่า หน้าจะได้รับการป้องกัน อย่างเต็มที่ ทาครีมให้ทั่วใบหน้า คอ หู และริมฝีปากแล้วเกลี่ยให้ทั่วใบหน้าจากนั้นรอให้ครีมซึมเข้าสู่ผิวก่อนสัก 20 นาที หลังจากนั้นสามารถแต่งหน้าต่อได้เลย หรือในวันสบาย ๆ ไม่อยากแต่งหน้าก็แค่ทาครีมกันแดดแล้วรอสัก 20 นาที ก็พร้อมออกจากบ้านได้เลย


ทาครีมกันแดดซ้ำทุก 2 ชั่วโมง เมื่อต้องอยู่กลางแจ้งทั้งวัน! สำหรับสาว ๆ คนไหนที่ต้องอยู่กลางแจ้งและโดนแสงแดดโดยตรง จำเป็นมากที่ต้องทาครีมกันแดดซ้ำ ทุก 2-3 ชั่วโมง แต่ก็มีไม่กี่คนหรอกที่จะทากันแดดระหว่างวันจริงมั้ย? เพราะจะไปทำลายเครื่องสำอางของเรา แต่มีตัวเลือกที่สามารถทาครีมกันแดดระหว่างวันได้โดยไม่ทำร้ายเครื่องสำอางคือ การใช้สเปรย์กันแดด หรือสาว ๆ คนไหนที่แต่งหน้าหนาก็ให้ใช้แป้งฝุ่น ที่มีส่วนผสมของเอสพีเอฟแทนก็ได้นะ เห็นอย่างนี้แล้วการทาครีมกันแดดก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพียงแค่ต้องใช้เวลาให้ครีมซึมเข้าสู่ผิวก่อน

ถ้าอยากมีผิวที่สวยก็ต้องใจเย็นกันนะคะสาว ๆ

https:// www.dailynews.co.th/news/112279/
#3810



นางสาวพัชรา ทวีชัยวัฒนะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารงานลูกค้า บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์การติดเชื่อโควิด 19 ที่เข้าขั้นวิกฤต มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากแต่ไม่มีสถานพยาบาลเพียงพอ ประชาชนที่ติดเชื้อจำนวนมาก ต้องรับการรักษาแบบ Home Isolation หรือ Community Isolation 

บริษัทฯ จึงขานรับประกาศของคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เรื่องการจ่ายค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้เอาประกันภัยที่ติดเชื้อไวรัส โควิด 19  ซึ่งมีการดูแลรักษาแบบ Home Isolation หรือการดูแลรักษาแบบ Community Isolation โดยยืนยันที่จะให้ความคุ้มครองผู้ถือกรมธรรม์คุ้มครองชีวิตและสุขภาพของอลิอันซ์ อยุธยา เมื่อติดเชื้อโควิด 19 และรับการรักษาแบบ Home Isolation หรือ Community Isolation โดยความคุ้มครองจะเป็นไปตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง และไม่เกินจำนวนผลประโยชน์สำหรับ ค่าใช้จ่าย ซึ่งเกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาลตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ประกันภัยของลูกค้า

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังคงให้ความคุ้มครองลูกค้าตามปกติ กรณีลูกค้าติดเชื้อและเข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยใน ซึ่งครอบคลุมการรักษาทั้งในโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม และหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ (hospitel) ทั้งนี้ จนถึงปัจจุบัน บริษัทฯ ได้จ่ายเคลมตามกรมธรรม์จากสถานกาณณ์โควิด 19 ไปแล้ว กว่า 2,500 เคส ยอดเคลมกว่า 157  ล้านบาท

"อลิอันซ์ อยุธยา ยืนยันที่จะอยู่เคียงข้างลูกค้าคนไทย พร้อมที่จะให้ความคุ้มครองตามคำมั่นสัญญา และเป็นอีกแรงขับเคลื่อนของสังคมไทย ที่จะจับมือทุกฝ่ายก้าวผ่านสถานการณ์ยากลำบากนี้ไปด้วยกัน" 
#3811


จากการที่ศาลปกครองมีคำพิพากษา เพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างโครงการ "แอชตัน อโศก" ที่ออกให้แก่ บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด กลายเป็นประเด็นร้อน !!! ที่สร้างกระแสความหวั่นวิตกให้กับลูกบ้าน และคนที่กำลังซื้อคอนโด

ปัจจุบันโครงการ "แอชตัน อโศก" สร้างเสร็จและโอนกรรมสิทธิ์มาได้กว่า 2 ปีแล้ว แม้ว่าจะยังมียูนิตเหลือขายอยู่แต่ก็เพียงไม่กี่ยูนิตจากจำนวนทั้งหมด 783 ยูนิต ซึ่งการเพิกถอนใบอนุญาตครั้งนี้เท่ากับว่าโครงการนี้ก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตมาตั้งแต่หลายปีที่แล้ว และขั้นตอนต่างๆ ที่ต่อเนื่องกันมาตั้งแต่ต้นนั้นก็ผิดด้วยเช่นกัน

การที่มีคำพิพากษาแบบนี้ออกมานั้นสร้างความวิตกกังวลให้กับคนที่มียูนิตอยู่ในโครงการนี้แน่นอน

แม้ว่าทางบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด (มหาชน) จะออกมาชี้แจงแล้วว่าคำตัดสินของศาลปกครองยัง "ไม่ใช่" ที่สิ้นสุด โดยทางบริษัทจะมีการดำเนินการคัดค้านคำพิพากษาก็ตาม

"สุรเชษฐ กองชีพ" กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนซัลแทนซี่ จำกัด กล่าวว่า ในกลุ่มของผู้ซื้อในตอนนี้คงต้องหาทางเรียกร้องหรือขอคำยืนยันจากฝั่งของเจ้าของโครงการ เพื่อให้มั่นใจว่า พวกเขาจะยังมีสิทธิ์ในกรรมสิทธิ์อาคารชุดที่ซื้อไว้ตั้งแต่หลายปีที่แล้ว

โดยในช่วงที่เปิดขายโครงการนี้สร้างกระแสเสมือนเป็นเบญจภาคีแห่งพระเครื่อง และเป็นหนึ่งในโครงการที่มีการแย่งชิงกันมากที่สุด เนื่องจากทำเลที่ตั้งโครงการที่ถือได้ว่า หาได้ยากยิ่ง (Rare item) ในตอนนั้นและในอนาคต ส่งผลให้ราคาขายในเวลานั้น จะมากกว่า 200,000 บาทต่อตารางเมตร

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/952115
#3812


https://m.mgronline.com/around/detail/9640000075102
จีนกำลังศึกษาว่ามีความจำเป็นหรือไม่ที่ต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้นให้กลุ่มคนอ่อนแอทั้งหลาย เช่น คนสูงสัย บุคคลที่มีโรคประจำตัวหรือกลุ่มคนที่ทำงานในพื้นที่เสี่ยงสูง ท่ามกลางการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์เดลตา ในขณะที่ประเทศแห่งนี้พบผู้ติดเชื้อในท้องถิ่นเพิ่มขึ้นอย่างน่ากังวล

หวัง หัวชิง ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีน กล่าวระหว่างแถลงข่าวเมื่อวันเสาร์ (31 ก.ค.) ว่ายังไม่มีหลักฐานมากพอสำหรับบ่งชี้ว่าการฉีดวัคซีนเข็ม 3 มีความจำเป็นกับทุกคน

ความเห็นดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ หมี่ เฟิง โฆษกคณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติจีน เปิดเผยระหว่างแถลงในเวทีเดียวกัน ว่า จีนพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในท้องถิ่น 328 คนในเดือนกรกฎาคม ถือเป็นจำนวนพอๆ กับเคสผู้ติดเชื้อใหม่ในช่วง 5 เดือนหลังสุดรวมกัน

โฆษกคณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติจีนเผยต่อว่า ไวรัสที่กำลังแพร่ระบาดในปัจจุบัน ส่วนใหญ่แล้วเป็นตัวกลายพันธุ์เดลตา แต่ยืนยันมาตรการควบคุมไวรัสของจีนยังคงมีประสิทธิภาพในการรับมือกับสายพันธุ์เดลตา

นายแพทย์เส้า ยี่หมิง นักวิจัยจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีน เน้นย้ำว่า การฉีดวัคซีนหมู่เพียงลำพังไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์เดลตา และมันต้องดำเนินการพร้อมกับข้อจำกัดต่างๆ ที่เข้มงวด อย่างเช่นการเว้นระยะห่างทางสังคมและการสวมหน้ากาก

นอกจากนี้ นายแพทย์เส้า ระบุต่อว่ามันเป็นบทเรียนของบรรดาประเทศพัฒนาหลายชาติ ที่พบเห็นเคสผู้ติดเชื้อกลับมาเพิ่มขึ้นอีกรอบ หลังเจ้าหน้าที่ผ่อนปรนข้อจำกัดโควิด-19 หลังจากพวกเขาบรรลุเป้าหมายฉีดวัคซีนแก่ประชาชนในวงกว้างแล้ว

(ที่มา : บลูมเบิร์ก) https:// m.mgronline.com/around/detail/9640000075102
#3813



ราคาบิทคอยน์ เทรดที่เว็บไซต์คอยน์เดสก์ เมื่อเวลา 06.00 น.ของวันนี้ (31ก.ค.)ปรับตัวขึ้น 3.72% เคลื่อนไหวที่ 41,249.28 ดอลลาร์

การเคลื่อนไหวในแดนบวกช่วงเช้าวันนี้ของราคาบิทคอยน์ มีขึ้นหลังจากรัฐบาลเยอรมนี ออกกฏหมายฉบับใหม่อนุญาติให้กองทุนรวมพิเศษ เข้าลงทุนเงินหนึ่งในห้าของพอร์ตที่เป็นคริปโตเคอร์เรนซีได้ โดยเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนส.ค.เป็นต้นไป

ขณะเดียวกัน รัฐบาลอิสราเอล ก็เตรียมออกกฎหมายใหม่เพื่อยับยั้งการหลีกเลี่ยงภาษีและปิดช่องโหว่สำหรับการฟอกเงิน โดยจะกำหนดให้พลเมืองที่ถือเหรียญคริปโต ที่มีรวมมูลค่ามากกว่า 60,000ดอลลาร์ต้องแสดงข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่

ราคาน้ำมันเวสต์เท็กซัสร่วง 8 เซนต์

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนก.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ปรับตัวลง 8 เซนต์ ปิดที่ 73.53 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวลง 2 เซนต์ ปิดที่ 76.03 ดอลลาร์/บาร์เรล

นักลงทุนคาดการณ์ว่าตลาดจะยังคงเผชิญภาวะน้ำมันตึงตัวไปจนถึงสิ้นปีนี้ จากการเปิดเศรษฐกิจในประเทศต่างๆ

นอกจากนี้ แม้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเดือนละ 400,000 บาร์เรล/วัน ตั้งแต่เดือนส.ค.จนถึงเดือนธ.ค. แต่ก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำมันที่คาดว่าจะพุ่งขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ขณะที่คาดว่าการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในวงกว้างจะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น

ขณะเดียวกัน การที่อิหร่านออกแถลงการณ์ตำหนิสหรัฐว่าเป็นฝ่ายทำให้การเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ต้องหยุดชะงักลง ก็ได้เป็นปัจจัยบวกต่อตลาด เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและสหรัฐจะทำให้การส่งออกน้ำมันของอิหร่านต้องล่าช้าออกไป ซึ่งจะช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด
#3814



"ชุดทดสอบอย่างง่าย Rapid Test ชนิด Antigen" กำลังจะมาเป็นทางออกให้กับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้รู้ผลเร็วขึ้น เพราะปัจจุบันเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา แพร่กระจายได้เร็วขึ้นเทียบเท่าสายพันธุ์อังกฤษ ทำให้มีผู้ติดเชื้อเกือบหลักหมื่นต่อวัน 

8 ก.ค. ที่ผ่านมา ประเด็นการใช้ Rapid Antigen Test ได้รับมติเห็นชอบจากการประชุม EOC ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (Emergency Operation Center) ของกระทรวงสาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีข้อมูลราคา Rapid Antigen Test ว่าถ้าเข้าเกณฑ์ สปสช. จะเบิกจ่ายได้ไม่เกินรายละ 450 บาท และในหน่วยบริการไม่เกิน 600 บาท


รู้จัก "Rapid Test Covid-19" ชนิด Antigen คืออะไร
Rapid Test ที่ขึ้นทะเบียนกับ อย. ไปแล้วนั้นมีทั้งชนิด Rapid Antigen Test และ Rapid Antibody Test แต่ทั้งสองแบบมีความแตกต่างกันด้านการอ่านและแปลผล ดังนี้

เมื่อได้รับเชื้อ จะตรวจไม่พบในชุดตรวจ Rapid Antigen Test และ Rapid Antibody Test
หลังรับเชื้อ 3-5 วัน เริ่มตรวจพบเชื้อด้วย Rapid Antigen Test ในผู้ป่วยบางราย ต้องทำการตรวจซ้ำ ส่วนวิธี Rapid Antibody Test จะตรวจไม่พบ
หลังรับเชื้อ 5-14 วัน จะตรวจพบในชุดตรวจ Rapid Antigen Test ส่วนการตรวจในชุดตรวจ Rapid Antibody Test จะพบในบางราย หรือพบในระยะเวลา 10 วันหลังรับเชื้อ
เมื่อหายป่วยแล้ว จะตรวจพบในชุดตรวจ Rapid AntibodyTest แต่ไม่พบในชุดตรวจ Rapid Antigen Test

อ้างอิงระยะเวลาการตรวจต่อรอบจากคู่มือการตรวจวินิจฉัยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระบุระยะเวลาการตรวจต่อรอบของวิธีการตรวจต่างๆ ดังนี้

Realtime RT-PCR ด้วยเครื่อง Automate ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ต่อ 96 - 384 ตัวอย่าง
Rapid Antigen Test ด้วยเครื่องอ่านสีบน Strip Test ใช้เวลา 15 - 20 นาที ต่อ 1 ตัวอย่าง
Rapid Test ใช้ตรวจหา Covid-19 อย่างไร

การใช้ Rapid Antigen Test ตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับการตรวจคัดกรองในกลุ่มผู้ไม่แสดงอาการ วิธีการใช้งานบนชุดตรวจ Rapid Antigen Test นี้ อ่านผลด้วยตามเปล่าได้ใน 15 นาที หลังจากหยดตัวอย่างบนแผ่นไนโตรเซลลูโลส

ผู้ที่มีเชื้อโควิด-19 ในร่างกายหลังรับเชื้อมาแล้ว จะปรากฏแถบสีบริเวณตำแหน่งที่ตรวจจับ Antigen บนแผ่นไนโตรเซลลูโลส

ภาพหลักการแสดงและขั้นตอนทดสอบด้วย Antigen Rapid Test จาก www.acebiolab.com/TW/news/44
ภาพหลักการแสดงและขั้นตอนทดสอบด้วย Antigen Rapid Test จาก www.acebiolab.com/TW/news/44
ข้อจำกัดคือ ชุดตรวจ Rapid Antigen Test ในปัจจุบันมีความจำเพาะเพียงร้อยละ 30-80 ดังนั้นเมื่อพบผล Antigen แล้วควรส่งตรวจด้วยวิธี RT-PCR ต่อไป

ชุดตรวจโควิด Rapid Test เป็นชุดทดสอบเพื่อทราบผลการติดเชื้อโควิดอย่างรวดเร็ว ลดระยะเวลา หน้าตาของชุดทดสอบ Rapid Test คล้ายกับที่ตรวจครรภ์ แต่ใช้งานไม่เหมือนกัน จัดเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ต้องสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ จึงเป็นอุปกรณ์ที่ไม่ควรนำมาตรวจให้กันเอง

รายชื่อ 24 ชุดตรวจ Rapid Antigen Test สำหรับ Covid-19 ที่ผ่าน อย.
ข้อมูล ณ วันที่ 12 ก.ค. 2564

1. STANDARD™ Q COVID-19 Ag Test ผลิตโดย SD Biosensor, Inc นำเข้าโดย บริษัท เอ็มพี กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด
2. Panbio™ COVID-19 Ag Rapid Test Device (nasopharyngeal) ผลิตโดย Abbott Diagnostics Korea Inc. นำเข้าโดย บริษัท ดีซีเอช ออริกา (ประเทศไทย) จำกัด
3. SARS-CoV-2 Rapid Antigen Test และ SARS-CoV-2 Antigen Control ผลิตโดย SD Biosensor, Inc นำเข้าโดย บริษัท โรช ไดแอกโนสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด
4. BIOCREDIT COVID-19 Ag ผลิตโดย RapiGEN INC. นำเข้าโดย บริษัท ทิพย์บรรพต กรุ๊ป จำกัด
5. Instant-View-Plus COVID-19 Antigen Test ผลิตโดย ALFA SCIENTIFIC DESIGNS,INC. USA นำเข้าโดย บริษัท ตรีปัญญา จำกัด
6. BIOSYNEX COVID-19 Ag BSS ผลิตโดย BIOSYNEX SWISS SA ,SWITZERLAND นำเข้าโดย บริษัท ดับเบิ้ล เอส ไดแอคนอสติคส์ จำกัด
7. Humasis COVID-19 Ag Test ผลิตโดย Humasis Co.,Ltd. Republic of Korea นำเข้าโดย บริษัท ทรู เฮลธ์แคร์ (ไทยแลนด์) จำกัด
8. Novel Coronavirus (COVID-19) Antigen Test Kit (Colloidal Gold) ผลิตโดย Hangzhou Laihe Biotech Co., Ltd. China. นำเข้าโดย บริษัท แปซิฟิค ไบโอเทค จำกัด
9. COVID-19 Rapid Antigen Test ผลิตโดย Reszon Diagnostic International Sdn. Bhd. Malaysia นำเข้าโดย บริษัท เจเนอรัลไซเอนซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด
10.Sofia SARS Antigen FIA ผลิตโดย Quidel Corporation. USA นำเข้าโดย บริษัท ซี เมดิค จำกัด
11. Exdia COVID-19 Ag ผลิตโดย Precision Biosensor Inc. Republic of KOREA. นำเข้าโดย บริษัท ทิพย์บรรพต กรุ๊ป จำกัด
12. OnSite COVID-19 Ag Rapid Test ผลิตโดย CTK Biotech, Inc. USA นำเข้าโดย บริษัท ซี เมดิค จำกัด
13. CerTest SARS-CoV-2 ผลิตโดย CERTEST BIOTEC S.L., SPAIN นำเข้าโดย บริษัท เฮาส์เซน เบอร์นสไตน์ จำกัด
14. STANDARD F COVID-19 Ag FIA และ STANDARD COVID-19 Ag Control ผลิตโดย SD Biosensor Inc. Republic of Korea. นำเข้าโดย บริษัท เอ็มพี กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด
15. BIOCREDIT COVID-19 Ag ผลิตโดย RapiGEN, Inc., Republic if KOREA นำเข้าโดย บริษัท ทิพย์บรรพต กรุ๊ป จำกัด
16. FORA COVID-19 Antigen Rapid Test ผลิตโดย TaiDoc Technology Corp., Taipei City Taiwan นำเข้าโดย บริษัท เมดิทอป จำกัด
17. Vstrip COVID-19 Antigen Rapid Test ผลิตโดย Panion&BF Biotech Inc. Xizhi Factory, Taiwan. นำเข้าโดย บริษัท เจ.เอ.ซี.อินดัสตรี่ จำกัด
18. COVID-19 Antigen Rapid Test (Nasopharyngeal Swab) ผลิตโดย Acro Biotech, INC. U.S.A นำเข้าโดย บริษัท ไอเมด ลาบอราทอรี่ จำกัด
19. COVID-19 Antigen Test Kit ผลิตโดย Lansion Biotechnology Co., Ltd., China. นำเข้าโดย บริษัท เฮาส์เซน เบอร์นสไตน์ จำกัด
20. AFFINOME COVID-19 Ag Rapid Test Cassette ผลิตโดย บริษัท แอฟฟิโนม จำกัด ประเทศไทย
21. 2019-nCoV-Antigen Rapid Test Kit (Colloidal gold immunochromatography) ผลิตโดย Beijing Lepu Medical Technology Co., Ltd. , P.R. China นำเข้าโดย บริษัท พริมา ไซเอ็นติฟิค จำกัด
22. Humasis COVID-19 Ag Test ผลิตโดย Humasis Co., Ltd. Republic of Korea นำเข้าโดย บริษัท ลาโบตรอน จำกัด
23. Trueline COVID-19 Ag Rapid Test ผลิตโดย MEDICON CO., LTD Vietnam นำเข้าโดย บริษัท อินโนเมด (ประเทศไทย) จำกัด
24. SARS-CoV-2 Antigen Rapid Test Kit (Colloidal Gold Immunochromatography) ผลิตโดย Beijing Lepu Medical Technology Co., Ltd P.R. China นำเข้าโดย บริษัท ออสท์แลนด์ แคปปิตอล จำกัด

กองควบคุมเครื่องมือแพทย์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีมติเห็นชอบ Rapid Antigen Test จะเริ่มกระจายใช้ในสถานพยาบาลที่ได้รับการรับรอง และมีผู้เชี่ยวชาญอ่านผล ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค. 2564 เป็นต้นไป

ที่มา : moph.go.th, oryor.com, fda.moph.go.th
#3815



โค้งสุดท้ายโปรเจกต์ความร่วมมือครั้งใหญ่ระหว่าง LOVEiS Entertainment และ JOOX ในชื่อ "LOVEiSJOOXSpotlight" เปิดออดิชันเฟ้นหาคนรุ่นใหม่ที่หลงใหลในดนตรี ได้มีโอกาสร่วมงานกับทีมทำเพลงค่าย LOVEiS Entertainment และสังกัดค่ายย่อย อาทิ PROM+, marr, LIT ENTERTAINMENT, HOLYFOX, LABo ที่ล้วนแต่มีศิลปินดัง เช่น นนท์-ธนนท์, กัน-นภัทร, MEAN, เฟิร์ส-อนุวัตน์ โดยไม่จำกัดเพศ ไม่จำกัดอายุ

โค้งสุดท้ายโปรเจกต์ความร่วมมือครั้งใหญ่ระหว่าง LOVEiS Entertainment และ JOOX ในชื่อ "LOVEiSJOOXSpotlight" เปิดออดิชันเฟ้นหาคนรุ่นใหม่ที่หลงใหลในดนตรี ได้มีโอกาสร่วมงานกับทีมทำเพลงค่าย LOVEiS Entertainment และสังกัดค่ายย่อย อาทิ PROM+, marr, LIT ENTERTAINMENT, HOLYFOX, LABo ที่ล้วนแต่มีศิลปินดัง เช่น นนท์-ธนนท์, กัน-นภัทร, MEAN, เฟิร์ส-อนุวัตน์ โดยไม่จำกัดเพศ ไม่จำกัดอายุ

ผู้ที่สนใจสามารถกรอกใบสมัครเข้าร่วมออดิชันได้ทางออนไลน์ อัปโหลดคลิปวิดีโอแสดงความสามารถความยาวไม่เกิน 5 นาที ไม่ว่าจะร้อง เต้น มาเดี่ยว มาแบบวงได้ทั้งหมดที่ JOOX BUZZ พร้อมใส่ #loveisjoox spotlight เปิดรับสมัคร ถึง 7 ส.ค.64 ชิงเงินรางวัล ชนะเลิศ 100,000 บาท

"จี๊บ-เทพอาจ กวินอนันต์" ซีอีโอเลิฟอิส เผยว่า "ในปีนี้เรากำลังมองหาและค้นหา พร้อมให้โอกาสคนรุ่นใหม่เข้ามาแสดงฝีมือจากทั่วประเทศ ทั้ง 6 ค่ายส่งโปรดิวเซอร์ มือฉมังคนดนตรีตัวจริง มาคัดเองทั้ง Danai Dano, Oui Buddha Bless, Build (Lemon Soup), Palm Pawee, Pat Vorapat, Dome Jaruwat โฟกัสที่ความสามารถสูงสุด ตามด้วยบุคลิกภาพที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์ คัดรอบแรกเหลือ 100 คลิป ออดิชันออนไลน์กับคณะกรรมการในรอบที่ 2



นอกจากนี้ยังเปิดโหวตอีกทางให้เพื่อนๆ พี่น้อง ครอบครัวได้โหวตสนับสนุนคนที่เรารักและผลักดันให้เค้าไปสู่ฝันเป็นศิลปิน ยอดหัวใจของ 100 คลิปผลงานที่ผ่านเข้ารอบแรก 1 หัวใจ เรามอบ 1 บาท นำไปช่วยเหลือวิกฤติโควิด-19 ต่อไป ติดตามได้ที่ Facebook/ IG/ Twitter : LOVEiS, JOOX Thailand, Application: JOOX.
#3816



กระทรวงอุตสาหกรรมเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย.ขยายตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ภาพรวมดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) อยู่ที่ระดับ 97.73 เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.58 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยไตรมาสที่ 2/64 ขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 20.41 ครึ่งปีแรก 64 ขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 9.41 เนื่องจากประเทศคู่ค้าสำคัญเริ่มฟื้นตัวจากมาตรการของภาครัฐในแต่ละประเทศ รวมถึงความคืบหน้าการฉีดวัคซีนในหลายประเทศส่งผลให้การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม (ไม่รวมทองคำและยุทโธปกรณ์) ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 45.23 ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าภาคการผลิตอุตสาหกรรมที่สำคัญจะยังเติบโตต่อเนื่องตามภาคการส่งออกซึ่งถือเป็นกลจักรสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศในช่วงเวลานี้

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรมเปิดเผยว่า สถานการณ์ภาคการผลิตอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ปรับตัวดีขึ้น สะท้อนได้จากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI)เดือนมิถุนายน 2564 ขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน จากทิศทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญทั่วโลกมีแนวโน้มดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น และยุโรป ส่งผลให้ภาคการผลิตโดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมสำคัญขยายตัว ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เหล็กและเหล็กกล้า แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีบางโรงงานอุตสาหกรรมต้องหยุดการผลิตชั่วคราวแต่เป็นเฉพาะบางสายการผลิต และสามารถกลับมาเร่งกำลังการผลิตได้เหมือนเดิม



ขณะเดียวกันกระทรวงอุตสาหกรรมมีการขับเคลื่อนมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ร่วมกับกระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ด้วยหลักการ "Online - Onsite - Upgrade -Vaccine" คือ 1.Online ให้โรงงานประเมินตนเองผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ไทย สต๊อป โควิด-19 พลัส และไทยเซฟไทย 2. Onsite จัดทีมแนะนำและติดตามการประเมินตนเอง โดยให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด และหน่วยงานในพื้นที่ของกระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ร่วมกันจัดทีมสุ่มตรวจประเมินโรงงานในพื้นที่ในโรงงาน

3.Upgrade จัดทำมาตรการฟื้นฟูสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หลังจากโรงงานประเมินตนเอง เพื่ออัพเกรดสถานประกอบการให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน 4. Vaccine เร่งรัดการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในโรงงาน รวมทั้งผลักดันการเป็นศูนย์ให้บริการฉีดวัคซีนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมและโรงงานขนาดใหญ่ที่มีคนงานมากกว่า 2,000 คน เพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดในภาคแรงงาน และจะสามารถทำให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถเดินหน้าการผลิตต่อไปได้

นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนมิถุนายน 2564 ขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 อยู่ที่ระดับ 97.73 เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.58 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยไตรมาสที่ 2/64 ขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 20.41 ส่วนครึ่งปีแรกปี 2564 ขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 9.41 โดยการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม (ไม่รวมทอง อาวุธ รถถัง และอากาศยาน) มูลค่า 18,440 ดอลล่าร์สหรัฐ ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 45.23 ส่วนการนำเข้าสินค้าทุน ขยายร้อยละ 28.5 ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ และการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (ไม่รวมทองคำ) ขยายตัวร้อยละ 69.4 ได้แก่ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เป็นต้น



สำหรับการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมในช่วงครึ่งปีแรก ปี 2564 ขยายตัวเกือบทุกอุตสาหกรรม โดยเฉพาะการผลิตของอุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์มีการผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 39.87 โดยเป็นการผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้นในรถทุกประเภทจากช่วงเดียวกันของปีก่อนตามคำสั่งซื้อจากต่างประเทศส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ยางล้อขยายตัวตามไปด้วย อุตสาหกรรมเหล็กขยายตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากคำสั่งซื้อทั้งในและต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นตามราคาตลาดโลก ส่งผลให้การผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.80 การผลิตชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ มีการผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.65 ตามความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นจากการเรียนและการทำงานออนไลน์ และอุตสาหกรรมการผลิตถุงมือยางที่เติบโตตามความต้องการใช้งานทางการแพทย์สูงขึ้นจากการระบาดของโควิด-19 อีกทั้ง ในเดือนมิถุนายน 2564 อุตสาหกรรมเครื่องประดับ ซึ่งเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยเริ่มกลับมาขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 178.89 สะท้อนให้เห็นภาพของเศรษฐกิจโลกที่เริ่มกลับมาฟื้นตัว

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศการเร่งกระจายการฉีดวัคซีน และแผนการเปิดประเทศในช่วงครึ่งปีหลัง ส่งผลให้การคาดการณ์ MPI ในเดือนถัดไปจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามยังคงมีประเด็นที่ต้องติดตามและให้ความสำคัญ อาทิเช่น การระบาดของโควิด-19 ในกลุ่มคลัสเตอร์โรงงานอุตสาหกรรม ปัญหาการขาดแคลนชิปในอุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งปัญหาต้นทุนค่าระวางการขนส่งสินค้าทางเรือตู้คอนเทนเนอร์สูงขึ้นที่อาจส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตในอนาคต

สำหรับอุตสาหกรรมหลักที่มีดัชนีผลผลิตที่ส่งผลบวกขยายตัวในเดือนมิถุนายน 2564 ยานยนต์ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 90.06 จากการผลิตเกือบทุกรายการสินค้า ประเทศคู่ค้าสำคัญ เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เวียดนาม ญี่ปุ่น เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ดีขึ้น ทำให้การส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 82.14 ส่วนตลาดในประเทศยังขยายตัวได้แม้จะมีการระบาดระลอก 3 ชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 32.32 ตามความต้องการชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์โลกที่ขยายตัว และความต้องการสินค้าเพื่อการทำงานแบบ work from home มากขึ้น ประกอบกับแนวโน้มของการพัฒนาสินค้าเทคโนโลยีเป็นปัจจัยส่งเสริมให้มีการใช้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในหลากหลายอุตสาหกรรมมากขึ้น

ส่วนเหล็กและเหล็กกล้าขั้นมูลฐาน ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 28.93 จากเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสี เหล็กแผ่นรีดเย็น เหล็กรูปพรรณรีดร้อน และเหล็กเส้นข้ออ้อย เป็นหลัก ตามความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมต่อเนื่องโดยเฉพาะยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ตลอดจนการเร่งก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานของรัฐในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา

ขณะที่เครื่องประดับเพชรพลอยและโลหะมีค่า ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 178.89 เนื่องจากปีก่อนเป็นช่วงเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้ยอดการผลิตและจำหน่ายยังอยู่ในระดับต่ำ ต่างจากปีนี้ ที่การผลิตเป็นไปตามปกติ รวมถึงการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายออนไลน์ทำให้การจำหน่ายเติบโตได้มากขึ้น ยางรถยนต์ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 78.19 จากยางนอกรถยนต์นั่ง ยางนอกรถบรรทุกรถโดยสาร และยางนอกรถกระบะ ขยายตัวได้ตามยอดการผลิตรถยนต์ที่เติบโตได้ดีขึ้น รวมถึงมีการลดราคาและทำโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขาย ซึ่งในปีก่อนได้รับผลจากการแพร่ระบาดและมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้ความต้องการสินค้าหดตัว

https:// siamrath.co.th/n/266720
#3817



เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 64 รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยว่า การประเมินตำแหน่ง และ วิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ไม่ได้รับผลกระทบ แม้จะอยู่ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ส่งผลให้ครูต้องปรับรูปแบบจัดการเรียนการสอนออนไลน์ ดังนั้น ก.ค.ศ. ได้ปรับหลักเกณฑ์การประเมิน และทำหนังสือแจ้งแนวปฏิบัติไปยังผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ผู้อำนวยการโรงเรียน รวมถึง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ยืดหยุ่นหลักเกณฑ์การประเมินต่างๆ โดยครูที่เป็นจิตอาสาในช่วงวิกฤตโควิด-19 สามารถนำมาใช้เป็นผลงานในการประเมินได้ ทั้งนี้ ให้สถานศึกษายืดหยุ่นตามสถานการณ์ที่เหมาะสม ส่วนการประเมินผู้อำนวยการสถานศึกษา ให้ใช้การประเมินในแนวทางเดียวกัน

รศ.ดร.ประวิต กล่าวต่อว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงาน ก.ค.ศ.ได้จัดประชุมคณะทำงานดำเนินการนำร่องการประเมินตำแหน่ง และวิทยฐานะ ผ่านระบบออนไลน์ มี น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เข้าร่วม โดยรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ห่วงใยเรื่องการเรียนการสอน และจากการรับฟังปัญหาของครูในพื้นที่ อยากให้มีงบประมาณเข้ามาช่วยเด็กในการเรียนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเด็กที่ขาดแคลน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการ ศธ.รับทราบปัญหา คาดว่าจะมีมาตรการต่างๆ ออกมาเร็วๆ นี้ ทั้งการปรับ และยืดหยุ่นระเบียบการใช้เงินอุดหนุนรายหัว การนับเวลาเรียน การประเมินผลการจัดการเรียน การบริหาร จัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตให้แก่นักเรียน และผู้ปกครอง

"ในส่วนของสำนักงาน ก.ค.ศ.เอง พยายามปรับระเบียบ และหลักเกณฑ์ต่างๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันให้มากที่สุด และเป็นไปตามนโยบาย โดยการประเมินต่างๆ ได้ปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตั้งแต่การแพร่ระบาดในช่วงแรก ถือเป็นการปลดล็อก ไม่ให้กระทบภาพรวมการจัดการเรียนการสอน"

ส่วนความคืบหน้ากรณีข้าราชการครูฯ จำนวน 1,933 ราย ยื่นทบทวนมติคณะกรรมการ ก.ค.ศ.กรณีระบุให้เป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการยื่นขอมีและเลื่อนวิทยฐานะตามเกณฑ์ ว13 เรื่องการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ มีวิทยฐานะ หรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ และวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ซึ่งกรณีนี้ยืดเยื้อ และมีการร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ปี 2561 และ ก.ค.ศ.ได้ตั้งคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ อ.ก.ค.ศ.ได้พิจารณาแล้ว และจะประกาศรายชื่อผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนเร็วๆ นี้ แต่ยังไม่ครบทุกคน เนื่องจาก อ.ก.ค.ศ.ไม่สามารถจัดประชุมได้ เพราะสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด -19 ดังนั้น การทำงานจึงอาจต้องล่าช้าออกไป แต่ ก.ค.ศ.จะเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้เสียสิทธิจากกรณีดังกล่าว ได้รับการพิจารณาจากสำนักงาน ก.ค.ศ.ว่าเป็นผู้ไม่มีคุณสมบัติเข้ารับการประเมินเพื่อขอมี หรือเลื่อนวิทยฐานะ ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ.ที่ ศธ.0206.3/ว13 เรื่องการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ มีวิทยฐานะ หรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ และวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ซึ่งเปิดให้ยื่นตั้งแต่ปี 2559 และได้รับแจ้งผลการประเมินปี 2561 ขณะนั้นผู้ที่ยื่นขอทบทวน 16 ราย ได้เกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2561
#3818



งานนี้เกิดดราม่าแบบงงๆ สำหรับนักร้องสาวเสียงดีสุดแซ่บ หวาย ปัญธิษา หลังออกมาโพสต์ภาพเก่าซึ่งเป็นภาพโปรโมตจากโปรเจกต์ 2021 ราตรี กับการรวมตัวของ 5 สาวสุดปังแห่งยุคในอินสตาแกรมส่วนตัว

ทั้งนี้ภาพดังกล่าวมี หวาย ปัญธิษา, มิลลิ และ แก้ม วิชญาณี ร่วมเฟรมด้วย แต่งานนี้กลับเกิดดราม่าขึ้นเมื่อแฟนคลับของสาวแก้มเข้าไปคอมเมนต์ถล่มอินสตาแกรมของสาวหวาย หลังมองว่าภาพที่ 2 ของโพสต์นั้นมีการครอปสาวแก้มออกเหลือเพียง หวาย และ มิลลิ จนมองว่าสาวหวายไม่ให้เกียรติเพื่อนร่วมงาน เชื่อมโยงไปถึงประเด็นข่าวการเมือง โดย หวาย และ มิลลิ นั้นออกมา Call Out ทำเอาสาวหวายต้องรีบเข้าไปเคลียร์ถามคอมเมนต์ดังกล่าวว่าตัวเองทำอะไรผิด

ล่าสุด สาวหวาย ได้ออกมาชี้แจงผ่านทวิตเตอร์เป็นคลิปที่เผยให้ดูชัด ๆ ว่าไม่มีการครอปรูปสาวแก้มออก แต่เป็นรูปที่คุณแม่ซึ่งเป็นผู้จัดการส่วนตัวถ่ายเก็บไว้ให้และซูมถ่ายไว้แค่ 2 คนเท่านั้น และบอกว่า "สติค่ะ "เป็นแบบนี้นี่เอง" คือแบบไหนคะ ถ้าจะครอปจริงก็คงลงแค่รูปคู่ค่ะ ไม่ใช่คนที่จะมาเก็บ feelings ได้หรือ fake ได้ค่ะ"

เรียกว่างานนี้ทำเอาแฟนคลับของสาวหวายและชาวเน็ตอีกด้านต่างออกมาวิจารณ์กันสนั่นว่าแฟนคลับของสาวแก้มควรออกมาขอโทษที่เข้าไปคอมเมนต์ตำหนิสาวหวายโดยไม่รู้ว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไร

ด้านสาวหวายได้ออกมากล่าวอีกว่า..."รอคำขอโทษอยู่นะคะ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่า ร้อน ตัว ค่ะ ขอบพระคุณค่ะ"
#3819



น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในเดือนมิ.ย.64 เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากการแพร่ระบาดระลอกสามของโควิด-19 โดยเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนยังอ่อนแอ แม้ปรับดีขึ้นเล็กน้อยตามการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาด ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัว เนื่องจากมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศยังมีอยู่

อย่างไรก็ดีการส่งออกสินค้าปรับดีขึ้นต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของอุปสงค์ประเทศคู่ค้า และยังช่วยพยุงการลงทุนภาคเอกชนและการผลิตภาคอุตสาหกรรม นอกจากนี้ การใช้จ่ายภาครัฐยังขยายตัวได้เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน จากทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุน

ขณะที่ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังคงปรับลดลง เนื่องจากผลของฐานต่ำในหมวดราคาพลังงานทยอยหมดไป ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานทรงตัวใกล้เคียงกับเดือนก่อน ด้านตลาดแรงงานยังเปราะบาง สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลน้อยกว่าเดือนก่อน จากดุลบริการ รายได้ และเงินโอนที่ขาดดุลลดลง ประกอบกับดุลการค้าเกินดุลเพิ่มขึ้นตามทิศทางการส่งออก

โดยในเดือนมิ.ย.64 เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วปรับดีขึ้นบ้างจากเดือนก่อน หลังจากภาครัฐทยอยผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดตั้งแต่กลางเดือนพ.ค. อย่างไรก็ดี เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนโดยรวมยังอยู่ในระดับต่ำ สอดคล้องกับรายได้และความเชื่อมั่นของครัวเรือนที่อ่อนแอจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19

ส่วนมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วปรับดีขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อน โดยการฟื้นตัวของอุปสงค์ประเทศคู่ค้าและวัฏจักรอิเล็กทรอนิกส์โลกที่อยู่ในช่วงขาขึ้น ส่งผลให้การส่งออกยังเพิ่มขึ้นในหลายหมวด โดยเฉพาะสินค้าเกษตรแปรรูป เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ การส่งออกเหล็กเร่งขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการเปลี่ยนไปเน้นตลาดส่งออกมากขึ้นในช่วงที่ความต้องการในประเทศลดลง

"การระบาดของโควิดในโรงงานต่างๆ อาจมีผลกระทบกับการผลิตบ้างในระยะสั้น แต่ผู้ผลิตก็มีการปรับตัว บางโรงงานก็มีการทำ Bubble & Sealed เพื่อให้การผลิตยังเดินหน้าต่อ ส่วนผลกระทบระยะยาวนั้น ขอรอดูการประเมินจากที่ประชุม กนง.วันที่ 4 ส.ค.นี้ก่อน"

ADVERTISEMENT


สำหรับเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วทรงตัวจากเดือนก่อน โดยการลงทุนหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ปรับดีขึ้นเล็กน้อยตามการส่งออก ขณะที่การลงทุนหมวดก่อสร้างปรับลดลงต่อเนื่องตามอุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแอ รวมทั้งการได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานก่อสร้าง

ส่วนการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อน ตามการผลิตหมวดยานยนต์ ปิโตรเลียม และวัสดุก่อสร้าง สอดคล้องกับอุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแอ โดยปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และเซมิคอนดักเตอร์ยังคงส่งผลกระทบต่อการผลิตหมวดอาหารแปรรูป เครื่องใช้ไฟฟ้า และยานยนต์

ทั้งนี้มูลค่าการนำเข้าสินค้าที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วปรับลดลงจากเดือนก่อน โดยเฉพาะหมวดเชื้อเพลิงและสินค้าอุปโภคบริโภคสอดคล้องกับอุปสงค์ในประเทศที่ยังอ่อนแอ อย่างไรก็ดี การนำเข้าวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางปรับดีขึ้นต่อเนื่อง สอดคล้องกับการฟื้นตัวของภาคการส่งออก

โดยการใช้จ่ายภาครัฐที่ไม่รวมเงินโอนขยายตัวเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน สะท้อนบทบาทในการพยุงเศรษฐกิจของภาครัฐที่มีต่อเนื่อง โดยรายจ่ายประจำขยายตัวตามการเบิกจ่ายค่าตอบแทนบุคลากร ขณะที่รายจ่ายลงทุนของรัฐบาลกลางขยายตัวตามการเบิกจ่ายของหน่วยงานด้านคมนาคมเป็นสำคัญ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศยังอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง จากมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศของไทยที่ยังมีอยู่

ขณะที่ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับลดลง เนื่องจากผลของฐานต่ำในหมวดราคาพลังงานทยอยหมดไป ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานทรงตัวใกล้เคียงกับเดือนก่อน ด้านตลาดแรงงานยังเปราะบาง สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือนมิ.ย.ขาดดุลน้อยกว่าเดือนก่อน จากดุลบริการ รายได้ และเงินโอนที่ขาดดุลลดลง ประกอบกับดุลการค้าเกินดุลเพิ่มขึ้นตามทิศทางการส่งออก

สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนบาทต่อดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินคู่ค้าคู่แข่งส่วนใหญ่ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ภายในประเทศที่ยังยืดเยื้อ โดยเดือนมิ.ย. เงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อยจาก พ.ค. เป็นผลจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดี จึงทำให้ดอลลาร์แข็งค่า ประกอบกับในประเทศเองยังมีการระบาดโควิดอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้บาทอ่อนค่า

โดยล่าสุดในเดือน ก.ค.เงินบาทยังคงอ่อนค่าต่อเนื่องจากเดือนมิ.ย. เป็นผลจากนักลงทุนมีความกังวลต่อสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตาในหลายประเทศ จึงทำให้มีการเข้าไปถือดอลลาร์มากขึ้น ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ขณะเดียวกัน จากการระบาดของโควิดในไทยเองที่ยังมีความรุนแรง ทำให้ ศบค.ต้องยกระดับมาตรการควบคุมให้เข้มงวดขึ้น จึงเป็นเหตุผลให้ในเดือนก.ค. เงินบาทปรับตัวอ่อนค่ามากกว่าสกุลเงินอื่นๆ

อย่างไรก็ดี หน้าที่ในการดูแลค่าเงินของ ธปท.นั้น ไม่ได้ขึ้นกับว่าเงินบาทจะแข็งค่าไปมาก หรืออ่อนค่าไปมาก แต่จะเข้ามาดูแลก็ต่อเมื่อค่าเงินมีความผันผวนจนส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพโดยรวม ซึ่ง ธปท.มีกลไลที่จะเข้าไปดูแลในส่วนนี้อยู่แล้ว

"เรามีเครื่องมือที่จะดูแลอยู่แล้ว หากค่าเงินมีความผันผวนสูง...เราไม่ได้ดูว่าจะแข็งค่ามาก หรืออ่อนค่ามาก แต่เราจะดูว่าไม่ให้มีการผันผวนเร็วเกินไปจนภาคธุรกิจไม่สามารถปรับตัวได้ เพราะจะส่งผลต่อเสถียรภาพโดยรวม เราจะดูแลไม่ให้บาทผันผวนมากเกินไป"

สำหรับในไตรมาสที่ 2 ปี 2564 เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดระลอก 3 ของ โควิด-19 ส่งผลให้เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนปรับลดลงจากไตรมาสก่อน แม้มาตรการภาครัฐจะช่วยพยุงกำลังซื้อได้บางส่วน ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวยังอ่อนแอ เนื่องจากมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศยังมีอยู่ อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้าปรับดีขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งช่วยพยุงการผลิตภาคอุตสาหกรรมและการลงทุนภาคเอกชน สำหรับการใช้จ่ายภาครัฐที่ไม่รวมเงินโอนขยายตัวเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน สะท้อนถึงบทบาทในการพยุงเศรษฐกิจของภาครัฐ

ส่วนด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปกลับมาเป็นบวกตามอัตราเงินเฟ้อหมวดพลังงานเป็นสำคัญ เนื่องจากราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศปรับสูงขึ้นตามราคาน้ำมันในตลาดโลก รวมทั้งฐานราคาพลังงานที่ต่ำในปีก่อน ด้านตลาดแรงงานเปราะบางมากขึ้น สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลมากกว่าไตรมาสก่อน ตามดุลบริการ รายได้ และเงินโอนที่ขาดดุลเพิ่มขึ้น

น.ส.ชญาวดีกล่าวอีกว่า ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในเดือนก.ค.64 ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจอาจมีแนวโน้มลดลงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังคงมีความรุนแรง ประกอบกับศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้ออกมาตรการควบคุมที่เข้มงวดมากขึ้น ขณะเดียวกันต้องติดตามความเสี่ยงจากปัญหา supply disruption ทั้งการแพร่ระบาดในโรงงาน รวมถึงการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ และตู้คอนเทนเนอร์
#3820



นายธนาวุฒิ พรโรจนางกูร รองกรรมการผู้จัดการหัวหน้าสายงานบริหารการลงทุน  บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บางกอกแคปปิตอล หรือ BCAP เปิดเผยถึงกรณีที่ ประเทศจีน ได้ออกมาตรการควบคุมกิจการของบริษัท Consumer Technology มาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปลายปี 2563 ส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นเทคฯจีนโดยรวม จากความกังวลเรื่องนโยบายของภาครัฐว่า จะเพ่งเล็งธุรกิจใดต่อไป

โดยผู้จัดการกองทุน ประเมินว่ารัฐบาลกลางมี 2 เป้าหมายสำคัญในการออกมาตรการควบคุมกลุ่ม Consumer Technology เรื่องแรกคือการสร้างการเติบโตที่มีคุณภาพและลดความเหลื่อมล้ำของระบบเศรษฐกิจของประเทศจีน และเรื่องที่สองคือความมั่นคงทางการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยมาตรการต่าง ๆ ที่ทยอยออกมาต่างมุ่งเน้นไปสู่ 4 เสาหลักแห่งความมั่นคง (four pillars of stability) กล่าวคือ 1) เสถียรภาพทางด้านการเงิน 2) การแข่งขันอย่างเสมอภาคและป้องกันการกีดกันทางการค้า 3) การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและการนำข้อมูลไปใช้อย่างเป็นธรรม และ 4) การสร้างความเท่าเทียมกันทางสังคม

อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมา การพัฒนาของเทคโนโลยี ทำให้เกิดผู้ประกอบการรายใหญ่ขึ้น จนนำมาสู่การผูกขาดทางการค้า การนำข้อมูลของผู้บริโภคมาใช้เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ประกอบการและเอาเปรียบผู้บริโภค การให้ผลตอบแทนที่ไม่เป็นธรรมแก่ลูกจ้าง ซึ่งหากปล่อยปัญหาทิ้งไว้นานอาจทำให้เกิดปัญหาความไม่เท่าเทียมกันทางสังคมซึ่งเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างในระยะต่อไป ตัวอย่างเช่น บริษัท Alibaba ใช้ฐานข้อมูลที่มี และพยายามเสนอเงินกู้เกินความจำเป็นแก่ผู้บริโภค โดยไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลด้านเสถียรภาพจากภาครัฐ หรือบริษัท Meituan ที่ใช้อำนาจผูกขาดในธุรกิจจนเกิดการจ้างพนักงานในอัตราที่ไม่เป็นธรรม


กลุ่ม China Consumer Tech กำลังเข้าสู่ new growth regime ที่อาจจะถูกปรับฐานเพื่อสะท้อนการเติบโตที่ลดลง เชื่อว่าทางการจีนจะยังคงมีนโยบายในเชิงควบคุมกลุ่ม Consumer Tech ออกมาอีกเป็นระยะ ๆ แต่การพัฒนานวัตกรรมยังมีความจำอย่างยิ่งสำหรับประเทศจีน เพื่อนำไปสู่การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของโลกภายใต้แผนแม่บทในการพัฒนาประเทศ

ดังนั้นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่เราเรียกว่า China Non-consumer Tech อาทิเช่น เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม Clean Energy กลุ่ม Biotech ที่เป็นฐานการผลิตของโลก และกลุ่มเทคโนโลยีเพื่อการอุตสาหกรรม จะยิ่งมีความน่าสนใจมากขึ้น จากการที่ราคาปรับลงมาจากปัจจัยแวดล้อมที่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรง และจากนโยบายสนับสนุนต่อเนื่องจากภาครัฐจึงเป็นโอกาสในการเข้าลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดังกล่าว


นายธนาวุฒิ กล่าวว่า  เราประเมินว่าหุ้นกลุ่ม China Consumer Tech ยังมีศักยภาพในการเติบโตที่ดีในระยะยาว แต่จะมีการปรับฐานเพื่อสะท้อน new growth regime ในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า ตามมาตรการควบคุมต่างๆสำหรับ 4 เสาหลักแห่งความมั่นคงของจีนทยอยกันมีความชัดเจนขึ้น ดังนั้นเราแนะนำโยก จากกลุ่ม China Consumer Tech ไปสู่กลุ่ม Non-consumer Tech ซึ่งราคาย่อตัวลงบางส่วนจาก sentiment ลบของหุ้นกลุ่ม china consumer tech" 

สำหรับ กอง BCAP-XHEALTH และ BCAP-CLEAN เป็นตัวเลือกสองกองทุนของ BCAP ที่มีสัดส่วนการลงทุนใน China Non-consumer Technology ที่ว่านี้อย่างมีนัยยะ และมีการกระจายกลุ่มอุตสาหกรรมและภูมิภาคทั่วโลกที่สมดุลซึ่งจะช่วยบริหารความเสี่ยงของความผันผวนของราคาได้ดีขึ้นในช่วงนี้และที่สำคัญหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสุขภาพและพลังงานสะอาดไม่ได้รับผลกระทบจากนโยบายป้องกันการผูกขาดทั้งฝั่งสหรัฐฯและจีน