• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

อยู่เคียงข้างสังคมไทย 60 ปี ไทยออยล์สร้างความมั่นคงทางพลังงาน

Started by Thetaiso, August 03, 2021, 03:57:21 PM

Previous topic - Next topic

Thetaiso




จากโรงกลั่นน้ำมันเอกชนรายแรกของประเทศ "ไทยออยล์" ตั้งปณิธานสานต่อความตั้งใจไม่หยุดยั้ง พร้อมอยู่เคียงข้างสังคมไทย สร้างความมั่นคงทางพลังงานและการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน มุ่งสู่องค์กร 100 ปี สร้างสรรค์คุณภาพชีวิตด้วยพลังงานและเคมีภัณฑ์ที่ยั่งยืน

กล่าวได้ว่า "ไทยออยล์" เป็นผู้เปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แก่อุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันในไทย เพราะเป็นผู้ประกอบการอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันเอกชนรายแรกของประเทศมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2504 ด้วยกำลังการผลิต 35,000 บาร์เรล/วัน

ตลอดระยะเวลา 60 ปี ไทยออยล์ยังคงมุ่งมั่นสานต่อไม่ลดละเพื่อตอบโจทย์ความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ จนในปัจจุบันเป็นโรงกลั่นที่มีกำลังการผลิตสูงที่สุดในประเทศ ผลิตน้ำมันสำเร็จรูปออกมาจำหน่ายประมาณร้อยละ 31 หรือ 1 ใน 3 ของปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปที่จำหน่ายทั้งหมดในประเทศไทย

เรื่องราวความสำเร็จของ "ไทยออยล์" ในช่วง 60 ปีที่ผ่านมาล้วนสร้างหลักไมล์ในโลกพลังงานหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น...การเป็นโรงกลั่นน้ำมันที่ทันสมัย มีความซับซ้อนในเชิงกระบวนการผลิตที่อยู่ในระดับต้นๆ ของภูมิภาคเอเชีย ทำให้สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงและเป็นที่ต้องการของตลาดในสัดส่วนที่มาก, เป็นโรงกลั่นที่สามารถผลิตน้ำมันไร้สารตะกั่วและน้ำมันเกรด Euro4 ได้ทุกผลิตภัณฑ์ เป็นรายแรก เป็นต้น

ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างความยั่งยืนแก่เศรษฐกิจและสังคมไทยโดยรวมมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ไทยออยล์ได้รับรางวัลผู้นำด้านความยั่งยืนในระดับโลก อย่าง DJSI ในเวทีระดับโลกด้วย



ยืนหนึ่ง โรงกลั่นทันสมัยระดับภูมิภาค เติบโตและอยู่ร่วมกับชุมชนอย่างเป็นมิตร

ปัจจุบัน นอกจากการเป็นผู้ผลิตรายใหญ่และมีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดในประเทศแล้ว ไทยออยล์ยังขยายตลาดไปยังต่างประเทศมากขึ้น เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในการเติบโตไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคซึ่งมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับสูง

นอกจากนี้ ไทยออยล์ยังได้มีการขยายการลงทุนไปยังธุรกิจอื่นๆ เช่น ธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน ธุรกิจอะโรเมติกส์ ธุรกิจผลิตไฟฟ้า และเอทานอล เพื่อตอบสนองความต้องการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน พร้อมรองรับความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างสมบูรณ์แบบ อีกทั้งยังเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมรายแรกและรายเดียวของประเทศที่ผลิตสาร Linear Alkyl Benzene (LAB) ซึ่งเป็นสารตั้งต้นที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผงซักฟอก น้ำยาทำความสะอาดต่างๆ ที่จำหน่ายทั้งในประเทศ และต่างประเทศ

แม้ว่าจะเติบโตทั้งในระดับประเทศและภูมิภาค แต่ไทยออยล์ก็ไม่ลืมชุมชนรอบๆ โรงกลั่นที่อยู่ร่วมกันมา เพราะไทยออยล์เป็นโรงกลั่นน้ำมันที่เกิดขึ้นกลางชุมชน การให้ความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนจึงเป็นสิ่งที่ไทยออยล์คำนึงมาโดยตลอด จนกระทั่งได้รับการยกย่องในฐานะบริษัทต้นแบบของการดำรงอยู่ร่วมกันระหว่างภาคอุตสาหกรรมกับชุมชน โดยได้รับการประเมินวัดระดับความผูกพันระหว่างชุมชนกับไทยออยล์อยู่ในระดับสูงมาโดยตลอด

หลักการสำคัญที่ไทยออยล์ยึดมั่นมาโดยตลอดเพื่อดูแลชุมชนรอบโรงกลั่น ทั้ง "หลัก 3 ประสาน" โดยเน้นการบูรณาการความร่วมมือที่ดีระหว่าง "ไทยออยล์", "ชุมชน" และ "ส่วนราชการท้องถิ่น" และ "5 ร่วม" ได้แก่ ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมแก้ไข ร่วมรับผล และร่วมพัฒนา โดยตัวแทนจากทั้ง 3 ภาคส่วนจะมีการประชุมร่วมกันทุกเดือนเพื่อสื่อสารข้อมูลของบริษัทไปยังชุมชนได้อย่างถูกต้องและมีความน่าเชื่อถือ และเปิดโอกาสให้ตัวแทนแต่ละชุมชนเสนอข้อมูลที่เป็นปัญหาหรือข้อคิดเห็นต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ เพื่อมาหาวิธีแก้ไขปัญหาปัจจุบัน และป้องกันปัญหาระยะยาวไม่ให้เกิดซ้ำอีก

นอกจากนี้แล้ว ไทยออยล์ยังได้จัดทำโครงการดีๆ เพื่อชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นให้ความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา เช่น การมอบทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาเยาวชนดีเด่นในพื้นที่ (Thaioil Scholarship for Community's Talent Student) การจัดค่ายอบรมความรู้ทั้งด้านวิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ เป็นต้น

ขณะที่ในด้านสุขภาพและสาธารณสุข ก็มีการจัดทำโครงการมากมาย เช่น การสร้างศูนย์สุขภาพและการเรียนรู้กลุ่มไทยออยล์เพื่อชุมชน ที่จัดกิจกรรมออกกำลังกายแอโรบิก รวมทั้งจัดให้มีเครื่องเล่นเด็กและอุปกรณ์ออกกำลังกายสำหรับชุมชน, การจัดคลินิกทันตกรรม, สร้างลานกิจกรรมกลางแจ้ง รวมถึงการสร้างอาคารอุบัติเหตุและฉุกเฉิน 5 ชั้นให้แก่โรงพยาบาลแหลมฉบัง ฯลฯ

นอกจากนั้น ยังให้ความสำคัญต่อการดูแลสิ่งแวดล้อม เช่น การสร้างพื้นที่สีเขียว การปลูกป่าชายเลน เป็นต้น

ทั้งหมดนี้ หลอมรวมให้ไทยออยล์สามารถอยู่ร่วมและเป็นมิตรกับชุมชน ซึ่งส่งผลให้เกิดความแข็งแกร่งแก่องค์กร และชุมชนก็เข้มแข็งเติบโตไปด้วยกันมาจนปัจจุบัน และต่อไปในอนาคต



เดินหน้าสู่องค์กร 100 ปี สร้างสรรค์คุณภาพชีวิตด้วยพลังงานและเคมีภัณฑ์ที่ยั่งยืน

จากเรื่องราวความสำเร็จตลอดระยะเวลา 60 ปีที่ผ่านมา ไทยออยล์ยังคงเดินหน้าสานต่อภารกิจความมั่นคงยั่งยืนด้านพลังงาน โดยหนึ่งในนั้นคือการต่อยอดจากธุรกิจปิโตรเลียม ไปสู่ธุรกิจปิโตรเคมีและผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและตลาด มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ตามแผนการเพิ่มการลงทุนที่หลากหลาย ด้วยเป้าหมายเพื่อลดการพึ่งพาธุรกิจการกลั่นน้ำมันแต่เพียงอย่างเดียว การขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ และลงทุนในธุรกิจที่เป็นไปตามแนวโน้มของโลก รวมทั้งธุรกิจไฟฟ้า และธุรกิจพลังงานทางเลือกใหม่อื่นๆ

ไทยออยล์มีแผนกลยุทธ์ที่จะผลักดันไปสู่เป้าหมายความสำเร็จในอนาคตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยวางแผนที่จะเร่งหาโอกาสในการลงทุนเพื่อต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ จากธุรกิจการกลั่นน้ำมัน ไปสู่ธุรกิจปิโตรเคมี กลุ่มโอเลฟินส์ เพิ่มเติมจากกลุ่มอะโรเมติกส์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน เนื่องจากมีผลิตภัณฑ์ปลายน้ำที่หลากหลายกว่า ถือเป็นการต่อยอดห่วงโซ่คุณค่าจากสารแนฟทา และแอลพีจี ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของโรงกลั่น รวมถึงมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง (High-value Products) เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดและลูกค้าอีกด้วย

กลยุทธ์การสร้างแพลตฟอร์มเพื่อแสวงหาโอกาสการเติบโตของธุรกิจในอนาคตในภูมิภาคผ่านการบริหารจัดการห่วงโซ่คุณค่าผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองต่อกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายขึ้น

กลยุทธ์การกระจายความเติบโตเพื่อลดความผันผวนของกำไรจากธุรกิจการกลั่นน้ำมันโดยเป็นการลงทุนในธุรกิจที่มีรายได้ที่มั่นคง รวมถึงธุรกิจใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือธุรกิจใหม่เชิงนวัตกรรมที่สอดคล้องกับแนวโน้มในอนาคต (New S Curve) ซึ่งจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้พอร์ตการลงทุนและเพิ่มเสถียรภาพของกำไร รองรับความผันผวนจากธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมีที่เกิดขึ้นจากปัจจัยรอบด้าน

ควบคู่กับแผนกลยุทธ์ข้างต้น ไทยออยล์ยังได้วางแนวทางในการผลักดันให้กลยุทธ์ที่วางไว้ประสบความสำเร็จด้วยแนวทาง 4P ที่เริ่มต้นด้วย People คือ การพัฒนาศักยภาพบุคลากรภายในองค์กรให้มีความรู้ความสามารถเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนธุรกิจในอนาคต ตามมาด้วย P ที่ 2 คือ Patronage ซึ่งหมายถึงผู้มีอุปการคุณทางธุรกิจที่ไทยออยล์ได้ส่งมอบคุณค่าให้ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า คู่ค่า นักลงทุน ผู้ถือหุ้น รัฐบาล รวมถึงชุมชน ซึ่งมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์เพื่อยอดธุรกิจ

สำหรับ P ที่ 3 คือ Partner หรือ "หุ้นส่วน" ผู้เป็นพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในและนอกประเทศที่ร่วมสร้างธุรกิจร่วมกัน และ P สุดท้าย คือ Platform ที่ไทยออยล์มุ่งใช้ประโยชน์สูงสุดจากแพลตฟอร์มต่างๆ ทั้งแพลตฟอร์มทางธุรกิจที่มีอยู่เดิม แพลตฟอร์มทางความรู้ และดิจิทัลแพลตฟอร์ม เพื่อพัฒนาให้ธุรกิจประสบผลสำเร็จ

เหนืออื่นใด คือนโยบายด้านความยั่งยืนที่ไทยออลย์ยึดถือเป็นเข็มทิศในการดำเนินธุรกิจมาโดยตลอดระยะเวลา 60 ปี ที่จะช่วยให้องค์กรมีความพร้อมต่อสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนในอนาคต สู่การเป็นองค์กร 100 ปี นั่นก็คือ ESG ที่หมายถึง

ด้าน E - Environment: Towards Green Economy เพื่อตอบสนองต่อทิศทางของโลกในเรื่องการลดก๊าซเรือนกระจกและเป็นเศรษฐกิจสีเขียว ไทยออยล์จึงมุ่งเน้นให้กระบวนการผลิตของไทยออยล์มีประสิทธิภาพสูงสุด เช่น ใช้พลังงานให้คุ้มค่า มีการนำกลยุทธ์ 3Rs มาใช้ (Reuse, Reduce, Recycle) และมีผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เป็นต้น

ด้าน S - Social: Towards .ter Quality of Life นอกจากการบริหารความสัมพันธ์กับชุมชนแล้ว ไทยออยล์ยังมุ่งเน้นในการสร้างประโยชน์ต่อชุมชน สังคม ให้เป็นรูปธรรม ผ่านโครงการเพื่อความรับผิดชอบต่อสังคมที่อาศัยองค์ความรู้ของบุคลากรของไทยออยล์ด้านพลังงานและวิศวกรรมเข้าไปสนับสนุน เช่น โครงการติดตั้ง Solar cell ให้กับโรงพยาบาล เป็นต้น

ด้าน G - Governance: Towards Good Governance เน้นเรื่องระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้มีส่วนได้เสีย มุ่งสร้างความโปร่งใสโดยทำระบบบริหารจัดการ Integrated GRC (Governance, Risk and Compliance) มาใช้ ผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1. การปลุกจิตสำนึกและค่านิยมของบุคลากรในองค์กร 2. การสร้างระบบที่แข็งแรง 3. การรักษาสมดุลระหว่างการควบคุมกับประสิทธิภาพ และคล่องตัวในการดำเนินงาน โดยไทยออยล์มุ่งเน้นการมีบรรษัทภิบาล (G:governance) ที่เป็นธรรมต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ในทุกๆ กิจกรรมในการดำเนินธุรกิจ

จากจุดเริ่มต้น จนกระทั่งครบรอบ 60 ปีใน พ.ศ.นี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า ไทยออยล์ คือบริษัทด้านพลังงานที่มีการเติบโตมั่นคงมาโดยตลอด โดยให้ความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนที่อยู่ร่วมกัน รวมทั้งคุณภาพของสิ่งแวดล้อม และพร้อมก้าวเดินต่อไปด้วยวิสัยทัศน์และจุดยืนเพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ประเทศ และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยไปพร้อมๆ กันด้วย