• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

ลูกกลัวหมอฟันเด็กควรจะทำไงดี?

Started by Beer625, March 25, 2022, 07:30:56 AM

Previous topic - Next topic

Beer625

ลูกกลัวหมอฟันเด็กควรจะทำอย่างไรดี?



ทำยังไงดี เมื่อลูกน้อยกลัวคุณหมอฟันเด็ก - เด็กกับความหวาดกลัวถือเป็นเรื่องที่คู่กัน เด็กจะกลัวในเรื่องที่จำฝังใจ ยกตัวอย่างเช่น การกลัวการเจ็บ กลัวคนแปลกหน้า ความกลัวสถานการณ์ใหม่ๆที่ยังไม่เคยประสบมาก่อน ซึ่งความกลัวจะเกิดขึ้นในช่วงหนึ่งของชีวิตแค่นั้น โดย ความกลัวนั้นจะขึ้นอยู่กับตัวเด็กอีกทีว่าเด็กนั้นก่อนหน้านี้พ่อแม่อาจจะมีต้นเหตุที่นำมาซึ่งการทำให้เด็กกลัว ทันตแพทย์เด็กหรือกลัวการรักษาทางด้านทันตกรรมเด็ก ได้แก่ ประสบการณ์การรักษาทางทันตกรรมเด็ก ในสมัยที่ยังเป็นเด็กเล็กๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพาเด็กเข้าการดูแลรักษาฟันในขณะที่เด็กเจ็บอยู่ฟัน และอาจจะเป็นผลให้เด็กอีกทั้งเจ็บแล้วกลัวและฝังลึกในใจเลยก่อให้เกิดความกลัว รวมทั้งอาจจะทำให้เด็กกลัวแพทย์ที่สวมชุดสีขาว หรือกลัวการเข้าไปรักษาในโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลทันตกรรมต่างๆและการฟังจากคำพูดจากญาติ ญาติพี่น้อง สหาย รวมทั้งเด็กอาจจะรับทราบได้จากการกระทำบางสิ่งบางอย่าง หรือจากสีหน้าท่าทางที่มีความกังวลที่พ่อแม่แสดงออกมาโดยไม่ทันรู้สึกตัว ฯลฯ

การจัดเตรียมลูก สำหรับเพื่อการมาพบคุณหมอฟันครั้งแรก

ทันตกรรมเด็กกับการจัดเตรียมเด็กที่ดีนั้นมีผลเป็นอย่างมากต่อการกระทำของเด็กและความสำเร็จสำหรับเพื่อการรักษา ด้วยเหตุนั้นคุณพ่อและก็คุณแม่จึงควรเลี่ยงคำบอกเล่าที่น่ากลัวหรือแสดงความกลุ้มใจเกี่ยวกับหมอฟันเด็กที่ให้บริการทัตนบาปเด็ก และไม่ควรใช้หมอฟันหรือวิธีการทำฟันเป็นเครื่องมือในการขู่ลูก ได้แก่ "ถ้าไม่ยอมแปรงฟันนะ จะจับไปให้แพทย์ถอนฟันเลย" ซึ่งจะยิ่งทำให้ลูกฝั่งดวงใจและก็กลัวทันตแพทย์มากขึ้น ดังนี้คุณพ่อและก็คุณแม่อาจช่วยสนับสนุนทัศนคติในทางบวกต่อแนวทางการทำฟันให้แก่ลูก ตัวอย่างเช่น "แพทย์จะช่วยให้หนูมีฟันสวยแล้วก็แข็งแรง" นอกเหนือจากนี้เมื่อพบว่าลูกมีฟันผุก็ควรพาลูกมาทำฟันตั้งแต่เวลาที่ยังไม่มีอาการปวด แม้รอคอยให้มีลักษณะปวดก่อนเด็กจะยิ่งมีความกลุ้มใจสำหรับในการทำฟันเพิ่มมากขึ้น

เมื่อมาหาหมอฟันแล้ว ถ้าเกิดลูกกลัวหมอฟัน ไม่ร่วมมือผู้ปกครองและก็หมอฟัน ควรจะทำอย่างไร

เด็กแต่ละคนที่มีความหวาดกลัวก็จะแสดงพฤติกรรมที่แตกต่างออกไป เด็กที่มีความกลัวและไม่ให้ความร่วมมือ จำเป็นอย่างยิ่งที่ทันตแพทย์จึงควรพินิจพิจารณาหาสาเหตุของความกลัวของเด็ก เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบสำหรับในการไตร่ตรองเลือกใช้กรรมวิธีจัดการความประพฤติปฏิบัติ ซึ่งพ่อแม่จะมีส่วนช่วยอย่างใหญ่โตสำหรับเพื่อการให้ข้อมูลพื้นฐานกลุ่มนี้ ภายหลังจากนี้ก็จะเป็นหน้าที่ของ หมอฟันที่จะเลือกใช้แนวทางปรับพฤติกรรมต่างๆเพื่อให้เด็กให้ลดความกลัว ความไม่สบายใจ รวมทั้งยินยอมให้ความร่วมแรงร่วมมือสำหรับการทำฟันเด็ก โดยแนวทางที่ใช้เยอะที่สุดก็คือ การปรับพฤติกรรมโดยวิธีทางจิตวิทยาไม่ว่าจะเป็นการพูดคุย ปลอบประโลม สรรเสริญ ช่วยเหลือให้กำลังใจ การเอนเอียง ความพอใจ หรือการแยกผู้ดูแล ทั้งนี้ขึ้นอยู่อายุของเด็ก ระดับของความร่วมแรงร่วมใจ รวมทั้งจำนวนงานหรือ ความเร่งรีบของการดูแลรักษาด้วย เป็นต้นว่า ในเด็กตัวเล็กๆน้อยกว่า 3 ขวบ ที่ยังพูดคุยสื่อสารกันไม่เข้าใจ หรือเด็กที่ไม่ให้ ความร่วมแรงร่วมใจเป็นอย่างมาก ทันตแพทย์ก็บางครั้งก็อาจจะจำเป็นจะต้องขออนุญาตใช้ผ้าห่อตัวเด็ก (Papoose board) ช่วยควบคุมการเคลื่อนไหวของเด็กเพื่อให้สามารถให้การรักษาได้ทางด้านทันตกรรมเด็กโดยสวัสดิภาพและมีคุณภาพมากขึ้นเรื่อยๆ หรืออาจจะนำเสนอโอกาสการรักษาทางทันตกรรมภายใต้การทานยาให้สงบหรือการดมกลิ่นยาสลบให้แก่ผู้ดูแลเป็นคนตัดสินใจ

สิ่งที่เหมาะสมที่สุดที่จะทำให้ลูกน้อยไม่กลัวทันตแพทย์เด็ก

สิ่งที่ดีที่สุดของการมาใช้บริการทันตกรรมเด็ก ที่จะทำให้ลูกของคุณไม่กลัวทันตแพทย์เป็น การดูแลช่องปากของลูกไม่ให้มีฟันผุ โดยควรจะพาลูกมาเจอทันตแพทย์ตั้งแต่ฟันซี่แรกขึ้นหรือด้านในขวบปีแรก และตรวจฟันอย่างสม่ำเสมอทุกๆ 6 เดือน เมื่อลูกไม่มีฟันผุ เวลาทำฟันเด็กก็ไม่เจ็บ เมื่อไม่เจ็บก็ชอบไม่กลัวหมอฟัน แต่ว่าเมื่อลูกมีฟันผุแล้วคุณพ่อและก็คุณแม่ก็ควรเข้มแข็งที่จะพาลูกมารับการรักษาตามนัดหมายอย่างสม่ำเสมอ ถึงแม้ลูกจะร้องไห้ตั้งแต่อยู่ที่บ้านเมื่อรู้ว่าจะพามาทำฟันก็ตาม เพื่อลูกของคุณมีสุขภาพโพรงปากที่ดี ซึ่งเมื่อมีสุขภาพช่องปากที่ก็ดีแล้วก็จะช่วยสนับสนุนให้เด็กมีความก้าวหน้าในด้านอื่นๆที่ดีตามไปด้วย

Beer625