• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

เรติเน่ ลุยนวัตกรรมอาหารบำรุงสายตา ตั้งเป้าชิงแชร์ตลาดมูลค่า 2 หมื่นล้าน

Started by Ailie662, October 10, 2021, 01:31:21 PM

Previous topic - Next topic

Ailie662

เรติเน่ เปิดตลาดอาหารบำรุงสายตาครั้งแรกในไทย ชู 3 เรื่องสำคัญ สูตรผ่านการวิจัยและพัฒนาโดยนักวิจัย – วัตถุดิบนำเข้าจากอเมริกา – ผลิตด้วยนวัตกรรมฟรีฟอร์ม วางกลุ่มเป้าหมายอายุ 35-65 ปี ตั้งเป้าครองส่วนแบ่งการตลาด 1% หรือ 200 ล้านในปี 2565

นายพิษณุ แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานวิจัยและพัฒนา บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรมเจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงสายตาเรติเน่ (RATINE) กล่าวว่า ปัญหาสุขภาพตาของคนไทยแบ่งได้ 3 ประเภท คือ 1. ปัญหาสุขภาพตาของวัยทำงาน โดยเฉพาะยุคนิวนอร์มอลผู้คนต่าง work from home ทำให้คนกลุ่มนี้ต้องใช้คอมพิวเตอร์มากกว่าอยู่ออฟฟิศ และแสงภายในบ้านไม่สว่างเพียงพอเหมือนกับออฟฟิศทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับตาต่างๆ เช่น ตาแห้ง จอประสาทตาเสื่อม ฯลฯ 

 

นอกจากนี้ บางคนต้องทำงานกลางแจ้ง หรือขับขี่มอเตอร์ไซค์ทำให้เกิดปัญหาสายตา เช่น ต้อลมหรือปัญหาสายตาอื่นๆ อันเกิดจากมลภาวะ 2. ปัญหาสุขภาพตาของผู้สูงอายุ เช่น ต้อหิน ต้อกระจกต้อเนื้อ จอประสาทตาเสื่อม ฯลฯ ซึ่งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เพราะสังคมไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุและ 3. ปัญหาสายตาสั้น เอียง ในกลุ่มเด็ก จากการจ้องสมาร์ทโฟน แท็บเลต คอมพิวเตอร์ เล่นเกมส์ปัจจุบันเด็กไทยใส่แว่นตามากขึ้นขณะที่อายุผู้ใส่น้อยลงไปเรื่อยๆ 


โรคที่เกี่ยวกับดวงตาเกิดขึ้นได้ทุกเพศ วัย อาชีพ แต่คนไทยให้ความสำคัญกับดวงตาน้อยมาก พออายุ 40 ปี ทุกคนก็เริ่มมีปัญหาสายตาแล้ว แต่เราไม่ค่อยตรวจเช็คสายตา ต้องรอให้มีอาการก่อนถึงจะเริ่มดูแล โรคตาไม่ใช่โรคฉับพลัน แต่เป็นโรคเรื้อรังที่ค่อยๆ สะสมแล้วจึงเกิดอาการในที่สุด คนที่อายุเกิน 65 ปี มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเกี่ยวกับดวงตาถึง 50% เพราะร่างกายของเราเสื่อมอยู่แล้วและอายุ 75 ปีขึ้นไป มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคตาถึง 75% ส่วนเด็กๆ จะเริ่มสะสมความเสื่อมโดยไม่รู้ตัว"

เรติเน่ ลุยนวัตกรรมอาหารบำรุงสายตา ตั้งเป้าชิงแชร์ตลาดมูลค่า 2 หมื่นล้าน
เรติเน่ ลุยนวัตกรรมอาหารบำรุงสายตา ตั้งเป้าชิงแชร์ตลาดมูลค่า 2 หมื่นล้าน

สำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงสายตาเรติเน่ มีจุดเด่น คือ ผลิตภายใต้โรงงานที่ได้มาตรฐานและมีประสบการณ์มายาวนานกว่า 70 ปี ผ่านการคิดค้นและทดสอบโดยทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่มีผู้เชี่ยวชาญระดับดอกเตอร์ด้านนวัตกรรม และเภสัชกร จึงมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยประสิทธิภาพ โดยส่วนผสมของเรติเน่ ประกอบด้วย ลูทีน ซีแซนทีน และบิลเบอร์รี่ ซึ่งวัตถุดิบเหล่านี้นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา จึงมีความเข้มข้นมากกว่าสูตรทั่วไป และผลิตโดยนวัตกรรมฟรีฟอร์มทำให้ร่างกายสามารถดูดซับสารอาหารได้อย่างเต็มที่

ผลิตภัณฑ์จะช่วยใน 4 เรื่องสำคัญ คือ 1.เพิ่มอาหารให้ดวงตา 2.เพิ่มการหมุนเวียนเลือดในลูกตา3.ช่วยลดความตึงเครียดของดวงตา และ 4.มีสารต้านอนุมูลอิสระ จากการเก็บข้อมูลผู้บริโภคที่ทานผลิตภัณฑ์ พบว่าเพียง 1-3 วันเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของดวงตา เช่น ตาแห้งน้อยลง อาการตาบอดกลางคืนดีขึ้น ฯลฯ และจะค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อทานต่อเนื่องเป็นเวลา 3-6 เดือน 

 

กลุ่มเป้าหมายที่ผลิตภัณฑ์จะเจาะตลาดเป็นกลุ่มวัย 35-65 ปี โดยเฉพาะคนวัย 40 ปี คนกลุ่มนี้เริ่มมีปัญหาสายตาแล้ว เพียงแต่ไม่ได้ให้ความสำคัญ จึงอยากให้คนกลุ่มนี้ได้ใช้เทคโนโลยียืดอายุสายตาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อถนอมสายตา และให้ดวงตาสามารถฟื้นฟูตัวเองได้

สำหรับมูลค่าผลิตภัณฑ์สุขภาพตั้งแต่ปี 2555-2563 มีการเติบโต 2 ดิจิทุกปี และหลังจากโควิด-19 เกิดขึ้นส่งผลให้คนรักสุขภาพมากขึ้น คาดว่าตลาดนี้ยังคงเติบโต และเมื่อทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ความสามารถในการจับจ่ายของผู้บริโภคกลับมาตลาดสุขภาพเติบโตเพิ่มขึ้นแน่นอน เพราะคนเริ่มเห็นความสำคัญของสุขภาพ โดยสัดส่วนของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสุขภาพดวงตามีสัดส่วน10-15% ของมูลค่าตลาดทั้งหมด 

 

ด้านนางสาวศิริลัคณา เอียดวิจิตร์ ที่ปรึกษาด้านการตลาดและการสร้างแบรนด์ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงสายตาเรติเน่ (RATINE) กล่าวถึงแผนการตลาดของเรติเน่ว่า ไลฟ์สไตล์คนไทยให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากยิ่งขึ้น และนิยมซื้อสินค้าทางออนไลน์ เพราะสะดวก รวดเร็ว ทั้งยังเป็นการสื่อสารกับแบรนด์ได้โดยตรง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงสายตาเรติเน่มองเห็นเทรนด์ดังกล่าว จึงเน้นการจัดจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก ทั้งทางเว็บไซต์ เฟซบุ๊ค ไอจี ไลน์ของเรติเน่ และช่องทางมาร์เก็ตเพลส อาทิ Shopee Lazada ShopAt24 JD Central และโฮมช้อปปิ้ง โดยตั้งเป้าครองส่วนแบ่งการตลาด 1% ของกลุ่มอาหารบำรุงสายตา หรือ 200 ล้านบาทภายในปี 2565 จากมูลค่าตลาดรวมผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีสูงถึงกว่า 20,000 ล้านบาท

 

สำหรับงบประมาณในการทำตลาดได้ทุ่มกว่า 20 ล้านบาท ในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ผ่านผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ อินฟูลเอนเซอร์ บุคคลที่มีชื่อเสียง และผู้ที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพดวงตานอกจากนี้ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมาได้จัดกิจกรรม "เปิดคาราวานรถเมล์เรติเน่ ห่วงใยทุกสายตาคนไทยทั่วประเทศ" ณ ขสมก.เขตการเดินรถที่ 1 (อู่บางเขน) พร้อมเปิดตัวโฆษณาบนรถโดยสารประจำทาง เพื่อสร้างการรับรู้ที่มีต่อแบรนด์และผลิตภัณฑ์